สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ Wall Street อย่าง Citigroup ล่าสุดได้ออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ Ethereum (ETH) โดยคาดการณ์ราคาเบื้องต้น (base case) ว่า ราคาจะร่วงลงมาเหลือ 4,300 ดอลลาร์ปิดสิ้นปีนี้ต่ำกว่าราคาปัจจุบันที่ 4,515 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคา $4,300 ไม่ใช่การคาดการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของทาง Citi แต่เป็นการคาดการณ์พื้นฐานเท่านั้น เพราะพวกเขาเชื่อว่าราคาของ ETH จะร่วงลงมาได้ถึง $2,200 แต่ในกรณีที่ตลาดขาขึ้นสุด ๆ ก็อาจไปได้ถึง $6,400
นักวิเคราะห์ของทางธนาคารระบุว่า จำนวนกิจกรรมบนเครือข่ายยังคงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับมูลค่าของ ETH แต่ในปัจจุบันภาคส่วนที่เติบโตของเครือข่ายกลับเป็น Layer 2 ทำให้บล็อกเชนหลักถูกใช้เป็นเพียงแค่ทางผ่าน
Citi สันนิษฐานว่ามีเพียง 30% ของกิจกรรมใน layer-2 เท่านั้นที่ส่งผลต่อมูลค่าของ Ether ซึ่งทำให้ราคาปัจจุบันอยู่เหนือกว่าแบบจำลองมูลค่าที่อิงตามกิจกรรม เพราะตอนนี้ยังคงเงินทุนที่ไหลเข้าอย่างแข็งแกร่งและกระแสความตื่นเต้นเกี่ยวกับ การนำสินทรัพย์มาแปลงเป็นโทเคน (tokenization) รวมถึง Stablecoin
ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของกองทุน ETF แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่กองทุนดังกล่าวของ Ethereum ส่งผลต่อราคาเป็นดอลลาร์มากกว่า ซึ่งทาง Citi มองว่าผลกระทบจะยังน้อยเพราะมีมูลค่าตลาดน้อยกว่า และเข้าถึงนักลงทุนได้ไม่มากเท่า
ในส่วนของปัจจัยระดับมหภาค Citi คาดว่าจะให้การสนับสนุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ใกล้กับเป้าหมายของธนาคารสำหรับดัชนี S&P 500 ที่ 6,600 จุดอยู่แล้ว นักวิเคราะห์จึงไม่คาดหวังว่าสินทรัพย์เสี่ยงจะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
อย่างไรก็ตาม ธนาคารอีกแห่งอย่าง Standard Chartered กลับยังคงเชื่อว่า Ethereum จะรุ่งเรื่องและยกย่องให้บริษัทที่ถือครอง ETH ยั่งยืนกว่าบริษัทที่ถือ BTC หมายความว่าราคาของ Ethereum ไม่ควรที่จะดิ่ง ส่วนฝั่งของ Tom Lee ก็ยังคงเชื่อมั่นว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้เรากำลังจะได้เห็นราคาของ Ethereum พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ที่มา : Coindesk

