มูลค่าตลาด (Market Cap) รวมของบริษัทเหมืองขุด Bitcoin ชั้นนำของโลกได้พุ่งทะยานทะลุ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา อ้างอิงจากรายงานล่าสุดของ JP Morgan
นักวิเคราะห์ชี้ว่าการเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้มาจาก “อานิสงส์สองชั้น” คือการที่ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น ควบคู่ไปกับการที่บริษัทเหล่านี้กำลังปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจครั้งสำคัญ ด้วยการนำโครงสร้างพื้นฐานของตนไปให้บริการ “ประมวลผลประสิทธิภาพสูง” (High-Powered Computing – HPC) สำหรับอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
โตเร็วกว่า Bitcoin ความลับอยู่ที่ ‘ธุรกิจ AI’
จุดที่น่าสนใจที่สุดในรายงานของ JP Morgan คือการที่มูลค่าตลาดรวมของบริษัทนักขุด เติบโตเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของราคา Bitcoin ต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 6 แล้ว
“การเติบโตของมูลค่าตลาดรวมนั้นแซงหน้าการแข็งค่าของราคา Bitcoin… ในขณะที่ผู้ประกอบการยังคงเดินหน้ากระจายธุรกิจของตนออกจากเหมืองขุด Bitcoin ไปสู่ HPC” รายงานระบุ
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนว่า นักลงทุนไม่ได้มองว่าบริษัทเหล่านี้เป็นแค่ “ผู้ขุด Bitcoin” อีกต่อไป แต่กำลังให้มูลค่ากับ “ธุรกิจ AI” ที่เป็นแหล่งรายได้ใหม่และมีศักยภาพในการเติบโตสูง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการที่ Google เข้าไปมีส่วนร่วมในข้อตกลงระหว่างบริษัท AI อย่าง Fluidstack และบริษัทเหมืองขุด Cipher ซึ่งเป็นสัญญาณการยอมรับจากยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยี
ราคาหุ้นพุ่งยกแผง
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสะท้อนออกมาในราคาหุ้นของบริษัทเหมืองขุดชั้นนำที่พุ่งสูงขึ้นอย่างโดดเด่นในเดือนที่ผ่านมา:
- CleanSpark (CLSK) ราคาหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 51%
- HIVE Digital (HIVE) ราคาหุ้นพุ่งขึ้น 41%
- Marathon Digital (MARA) ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 16%
การปรับตัวขึ้นนี้สอดคล้องกับราคา Bitcoin ที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำกว่า 107,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนกันยายน กลับมายืนเหนือ 117,615 ดอลลาร์ ในปัจจุบัน
แม้ผู้เชี่ยวชาญจะชี้ว่าการเปลี่ยนจากธุรกิจเหมืองขุดไปสู่ HPC สำหรับ AI นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนจะตอบรับต่อทิศทางใหม่นี้อย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจครั้งสำคัญที่อาจทำให้บริษัทเหมืองขุดเหล่านี้กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่หลากหลายและยั่งยืนกว่าเดิม
ที่มา: decrypt

