วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2025 ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหนึ่งใน “วันที่เลวร้ายที่สุด” ในประวัติศาสตร์ตลาดคริปโต โดยเกิดเหตุการณ์การ ล้างพอร์ต ครั้งใหญ่ที่สุด มูลค่ารวมเกือบ $20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 24 ชั่วโมง ตลาดคริปโตโดยรวมสูญเสียมูลค่าไปหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการ Panic Sell ครั้งมโหฬารนี้ ซึ่งทำให้หลายๆ เหรียญและโทเคนตกลงอย่างรุนแรง
ชนวนสาเหตุเริ่มต้นจากการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 68 เป็นต้นไป การประกาศครั้งนี้ยังรวมถึงการควบคุมการส่งออก “ซอฟต์แวร์ที่สำคัญ” ซึ่งเป็นการยกระดับความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหม่
คำประกาศดังกล่าวสร้าง Panic Sell ทันทีในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงหนัก 3.56% และหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ถูกลบมูลค่าตลาดรวมกว่า $770,000 ล้าน ในวันเดียว
ด้านราคา BTC ร่วงจากระดับสูงสุดกว่า $125,000 ไปแตะต่ำกว่า $102,000 ชั่วคราว คิดเป็นการสูญเสียมูลค่ากว่า 18% ภายในวันเดียว
วิกฤต “สินทรัพย์สังเคราะห์” ! เหรียญ USDe-BNSOL หลุด Peg
วิกฤตความผันผวนครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ราคาของสินทรัพย์หลักอย่าง Bitcoin แต่ยังลุกลามไปยังความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของสินทรัพย์สังเคราะห์ (Synthetic Assets) และ Liquid Staking Tokens (LST)
USDe ของ Ethena ซึ่งเป็น “Synthetic Dollar” ที่มีเป้าหมาย Peg มูลค่าไว้ที่ $1 ประสบปัญหา “หลุด Peg” รุนแรง โดยราคาบนแพลตฟอร์มบางแห่งดิ่งลงไปถึง $0.65 (ลดลง 34%) ในขณะที่เกิดเหตุ
วิกฤตนี้รุนแรงขึ้นเพราะ USDe ถูกใช้เป็นหลักประกัน ในการเทรด Margin เมื่อราคาสินทรัพย์หลัก (BTC) ดิ่งลง และมูลค่าของหลักประกัน (USDe) ก็ลดลงเกือบครึ่งพร้อมกัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เร่งการล้างพอร์ตของ Market Makers
BNSOL และ WBETH (Liquid Staking Tokens) ของ Binance ก็ประสบปัญหาหลุด Peg ชั่วคราวเช่นกัน สะท้อนความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการกำหนดราคาเฉพาะที่ (Localized Pricing Failure) บน Exchange บางแห่ง
Binance เยียวยานักเทรด ! ชดเชย 283 ล้านดอลลาร์
เพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกและกอบกู้ความเชื่อมั่น Binance ซึ่งเป็น Exchange คริปโตที่ใหญ่ที่สุด ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
Binance ประกาศจ่ายเงินชดเชยรวม 283 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับผู้ใช้ Futures, Margin, และ Loan ที่ใช้ USDe, BNSOL, และ WBETH เป็นหลักประกัน และได้รับผลกระทบจากการหลุด peg ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
การจ่ายชดเชยนี้ทำหน้าที่คล้ายการใช้กองทุนประกันเพื่อรักษาเสถียรภาพและป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นที่นำไปสู่การแห่ถอนสินทรัพย์
ตลาดคริปโตเริ่มฟื้นตัว : สหรัฐฯ เริ่มเปลี่ยนท่าที
สิ่งที่น่าจับตาคือ การตอบสนองทางการเมืองที่รวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 68 ทรัมป์ออกมาโพสต์บน Truth Social ด้วยถ้อยคำที่สื่อถึงการ “ลดความตึงเครียด” กับจีน
ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การเทขายครั้งใหญ่ของตลาดโลกทำหน้าที่เป็น “แรงกดดัน” ให้ผู้กำหนดนโยบายต้องปรับเปลี่ยนท่าทีทางการเมืองอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะรัฐมนตรีคลัง ‘สก็อตต์ เบสเซนต์’ ที่ออกมาส่งสัญญาณเปิดช่องทางการเจรจาการค้ากับจีน
การลดความตึงเครียดทางการเมืองส่งผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงทันที โดย Bitcoin ฟื้นตัวกลับมายืนเหนือ $113,000 และ Ethereum กลับมายืนเหนือ $4,000 ได้อีกครั้ง ในขณะที่รายงาน