วันนี้ทาง Siamblockchain จะมาสอนวิธีใช้ BNB ( Binance Coin) เพื่อลดค่าธรรมเนียมตอนเทรดบน Binance แบบจับมือทำทีละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือคนที่พึ่งเริ่มเทรดคริปโต อ่านตามนี้ไปเลย รับรองทำตามได้แน่นอน
BNB คืออะไรกันแน่? ทำไมต้องใช้?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก BNB กันก่อนดีกว่า BNB หรือ Binance Coin คือเหรียญคริปโตที่ Binance สร้างขึ้นมาเอง ใช้เป็นเหรียญหลักในระบบของ Binance
โดยประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของมันคือ การลดค่าธรรมเนียมการเทรดได้ถึง 25% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังใช้จ่ายค่าบริการต่างๆ ใน Binance ได้ และใช้ในระบบ DeFi กับ dApps ต่างๆ ได้อีกด้วย
พูดง่ายๆ คือ ถ้าคุณมี BNB ไว้ในกระเป๋า และตั้งค่าให้จ่ายค่าธรรมเนียมด้วย BNB ทุกครั้งที่เทรด คุณจะจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยลง ซึ่งหมายถึงการเซฟเงินได้เยอะมาก โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่เทรดบ่อยๆ ยิ่งเทรดเยอะ ยิ่งประหยัดเยอะแบบเห็นได้ชัดเจน
ขั้นตอนที่ 1: สมัครสมาชิก Binance
ถ้าคุณยังไม่มีบัญชี Binance อันดับแรกต้องไปสมัครก่อน เริ่มจากเปิดหน้าเว็บ Binance แล้วกดปุ่ม “Register” หรือ “สมัครสมาชิก” จากนั้นใส่อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ของคุณ แล้วตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง แนะนำให้ใช้ตัวพิมพ์เล็ก-ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกันเพื่อความปลอดภัย


หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จ ระบบจะส่งรหัส OTP มาให้ทางอีเมลหรือ SMS คุณต้องกรอกรหัสนี้เพื่อยืนยันตัวตน เมื่อยืนยันเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำ KYC (ยืนยันตัวตน) โดยเข้าไปที่ “Profile” แล้วเลือก “Verification” จากนั้นเลือก “Verify” ในส่วน Identity Verification คุณต้องถ่ายรูปบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และถ่ายรูปตัวเองพร้อมถือบัตรด้วย รอ Binance อนุมัติประมาณ 5-30 นาที บัญชีของคุณก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
ขั้นตอนที่ 2: โอน USDT เข้า Binance ผ่าน Bitkub หรือ Binance TH
ก่อนจะเทรดหรือซื้อ BNB เราต้องมีเงินในบัญชีก่อน สำหรับคนไทย วิธีที่ง่ายและปลอดภัยที่สุดคือ การซื้อ USDT จาก Bitkub หรือ Binance TH แล้วโอนมาที่ Binance Global วิธีนี้ปลอดภัยกว่า และราคาชัดเจนกว่าการซื้อผ่านบัตรเครดิต
มาดูวิธีการทีละขั้นตอนกันเลย ซึ่งจะแนะนำทั้งสองทางเลือกให้ คุณเลือกทำแบบไหนก็ได้ตามสะดวก
เริ่มจากวิธีแรกคือ การใช้ Bitkub ซึ่งเป็นเว็บเทรดคริปโตของไทยที่คนนิยมใช้กันมาก ให้เริ่มจากสมัครสมาชิก Bitkub แล้วทำ KYC ยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย เมื่อบัญชีพร้อมใช้งานแล้ว ให้เติมเงินเข้า Bitkub โดยโอนเงินผ่านธนาคารไปยังบัญชีของ Bitkub ตามที่ระบุในหน้าฝากเงิน เงินจะเข้าทันทีหรือภายใน 1-5 นาที จากนั้นให้ซื้อ USDT โดยไปที่หน้า Trade เลือกคู่เทรด USDT/THB แล้วซื้อ USDT ในจำนวนที่ต้องการ
เมื่อได้ USDT แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การโอน USDT จาก Bitkub ไปยัง Binance ก่อนอื่นคุณต้องไปที่ Binance สากลเพื่อหาที่อยู่กระเป๋า USDT ของคุณก่อน ให้เข้าไปที่ “Wallet” แล้วเลือก “Fiat and Spot” จากนั้นกดที่ “Deposit” และเลือกเหรียญ “USDT” ระบบจะให้คุณเลือก Network ให้เลือก “TRC20” เพราะค่าธรรมเนียมถูกที่สุด แล้วระบบจะแสดง Deposit Address ให้ ให้คัดลอกที่อยู่นี้ไว้ อย่าลืมเช็คให้แน่ใจว่าคัดลอกถูกต้อง
กลับมาที่ Bitkub ให้ไปที่ “Wallet” แล้วเลือก “Withdraw” เลือก “USDT” แล้วใส่ Deposit Address ที่คัดลอกมาจาก Binance ใส่จำนวน USDT ที่ต้องการโอน และเลือก Network เป็น “TRC20” ให้ตรงกับที่เลือกใน Binance ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ที่อยู่และ Network ถูกต้อง แล้วกด “Confirm” ระบบจะส่ง OTP มาให้ใส่รหัสแล้วยืนยัน การโอนจะใช้เวลาประมาณ 5-15 นาที USDT จะเข้า Binance ของคุณ คุณสามารถเช็คได้ที่ “Wallet” ใน Binance
สำหรับวิธีที่สองคือ การใช้ Binance TH วิธีนี้อาจจะง่ายกว่า เพราะสามารถโอนเงินจาก Binance TH ไปยัง Binance Global ได้ฟรีเลยไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยอันดับแรกให้ไปสมัครที่ Binance TH แล้วทำ KYC ให้เรียบร้อย เมื่อบัญชีพร้อมแล้ว ให้เติมเงินบาทเข้า Binance TH โดยโอนผ่านธนาคาร เงินจะเข้าเร็วมาก จากนั้นซื้อ USDT โดยไปที่หน้า Trade เลือกคู่ USDT/THB แล้วซื้อ USDT ตามจำนวนที่ต้องการ
ขั้นตอนสำคัญมากคือ การเชื่อมต่อบัญชี Binance TH กับ Binance Global เพื่อที่จะโอนเหรียญระหว่างกันได้ฟรี ให้ทำตามนี้เลยครับ เริ่มจากเปิดแอป Binance Global บนมือถือของคุณ ถ้ายังไม่ได้เปลี่ยนเป็นโหมด “Pro” ให้เปลี่ยนก่อน โดยกดที่ไอคอนโปรไฟล์มุมซ้ายบน เลื่อนลงสุด แล้วเลือก “Pro” จากนั้นไปที่หน้า “Home” แล้วกด “More” หรือ “เพิ่มเติม” เลื่อนลงไปที่ส่วนล่างสุดของหน้าจอ คุณจะเห็นตัวเลือก “Third-party Account” ให้กดเข้าไป
ในหน้า Third-party Account คุณจะเห็น Binance TH อยู่ในรายการ ให้กด “Activate” หรือ “เปิดใช้งาน” ที่ Binance TH ระบบจะพาคุณไปทำตามขั้นตอนการเชื่อมต่อบัญชี ซึ่งอาจต้องยืนยันตัวตน และอนุญาตการเชื่อมต่อทั้งสองบัญชี ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอไปเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้น




เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว การโอนเหรียญจาก Binance TH ไปยัง Binance Global จะง่ายมากและไม่เสียค่าธรรมเนียมเลย ให้ไปที่ “Wallet” ในแอป Binance Global เลือก “Transfer” หรือ “โอน” แล้วเลือกว่าต้องการโอนจาก Binance TH ไป Binance Global เลือกเหรียญ USDT ใส่จำนวนที่ต้องการโอน แล้วกด “Confirm” หรือ “ยืนยัน” เหรียญจะโอนไปทันทีภายในไม่กี่วินาที ไม่ต้องรอนานแบบการโอน On-chain เลย และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ทั้งสิ้น วิธีนี้สะดวกและประหยัดมาก
ตอนนี้คุณมี USDT ใน Binance สากลแล้ว พร้อมที่จะไปซื้อ BNB ในขั้นตอนต่อไป ข้อดีของวิธีนี้คือ ปลอดภัย ราคาชัดเจน
ขั้นตอนที่ 3: ซื้อ BNB เพื่อใช้ลดค่าธรรมเนียม
มาถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว เรามาซื้อ BNB กัน เริ่มจากกดที่ “Trade” บนแถบเมนู แล้วเลือก “Spot Trading” คุณจะเห็นหน้าจอการเทรดขึ้นมา มองไปที่มุมบนซ้ายจะเห็นชื่อคู่เทรด เช่น BTC/USDT ให้กดที่ชื่อคู่เทรดนั้น แล้วพิมพ์ “BNB” ในช่องค้นหา จากนั้นเลือก BNB/USDT
ตอนนี้คุณพร้อมซื้อ BNB แล้ว มองไปที่กล่อง Order ด้านล่างขวา แล้วเลือกแท็บ “Buy BNB” จากนั้นเลือกประเภทคำสั่ง ถ้าเป็นมือใหม่ ผมแนะนำให้เลือก “Market” เพราะจะซื้อทันทีที่ราคาตลาด แต่ถ้าอยากตั้งราคาซื้อเอง ให้เลือก “Limit”


ใส่จำนวน BNB ที่ต้องการซื้อ หรือถ้าอยากใช้เงินทั้งหมดหรือบางส่วน ก็กดปุ่ม 25%, 50%, 75% หรือ 100% ได้เลย แล้วกด “Buy BNB”
แนะนำให้ซื้อ BNB ประมาณ 0.1-0.5 BNB ก็เพียงพอสำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมได้นานแล้วครับ ขึ้นอยู่กับว่าคุณเทรดบ่อยแค่ไหน ถ้าเทรดไม่บ่อยมาก 0.1 BNB ก็ใช้ได้เป็นเดือนๆ แล้ว ตอนนี้คุณมี BNB แล้ว ขั้นต่อไปคือ การตั้งค่าให้ใช้ BNB จ่ายค่าธรรมเนียม
ขั้นตอนที่ 4: ตั้งค่าให้ใช้ BNB จ่ายค่าธรรมเนียม Spot Trading
นี่คือขั้นตอนสำคัญที่สุดเลย ถ้าไม่ตั้งค่านี้ แม้คุณจะมี BNB แล้ว ก็จะไม่ได้ส่วนลดนะ เริ่มจากกดที่ไอคอนโปรไฟล์มุมบนขวา แล้วเลือก “Dashboard” คุณจะเห็นหน้า Dashboard ที่แสดงข้อมูลบัญชีของคุณ
มองหาส่วนที่ชื่อว่า “Fee Level” หรือ “BNB” คุณจะเห็นสวิตช์ที่เขียนว่า “Using BNB to pay for fees” หรือ “Use BNB to pay for fees” อยู่ตรงนั้น ให้เปิดสวิตช์นี้เลย มันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียว ระบบจะแสดงข้อความยืนยันว่า “You will receive a 25% discount on trading fees” แสดงว่า คุณจะได้ส่วนลด 25% จากค่าธรรมเนียมการเทรด ให้กด “Confirm” เพื่อยืนยัน



หลังจากเปิดสวิตช์แล้ว ให้เช็กให้แน่ใจว่า ตั้งค่าสำเร็จ โดยลองไปดูที่หน้า Spot Trading คุณจะเห็นข้อความ “Fee: 0.075% (BNB 25% off)” แทนที่จะเป็น 0.1% แบบเดิม นั่นหมายความว่า ตอนนี้ทุกครั้งที่คุณเทรด Spot ระบบจะหัก BNB แทนเหรียญอื่น และคุณจะได้รับส่วนลด 25% ทันที
ขั้นตอนที่ 5: ตั้งค่าให้ใช้ BNB จ่ายค่าธรรมเนียม Futures Trading
ถ้าคุณเทรด Futures (ฟิวเจอร์ส) ด้วย ต้องตั้งค่าแยกต่างหาก การตั้งค่า Spot กับ Futures ไม่เชื่อมกัน เริ่มจากกดที่ “Derivatives” บนแถบเมนู แล้วเลือก “USDⓈ-M Futures” ซึ่งเป็นฟิวเจอร์สแบบใช้ USDT
เมื่อเข้ามาในหน้า Futures แล้ว ให้มองไปที่มุมบนขวา จะเห็นไอคอนรูปเฟือง (Settings) กดที่ไอคอนเฟืองนั้น แล้วเลื่อนลงมาหาส่วน “Asset Mode & Fee Payment” คุณจะเห็นตัวเลือก “Using BNB to pay for trading fees” ให้เปิดสวิตช์นี้ ระบบจะแสดงข้อความว่า “You will receive a 10% discount on futures trading fees” แล้วกด “Confirm”
ต้องบอกว่า ส่วนลดของ Futures จะน้อยกว่า Spot นะครับ ได้แค่ 10% แทนที่จะเป็น 25% แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย โดยเฉพาะถ้าคุณเทรด Futures บ่อยๆ และใช้เลเวอเรจสูง ค่าธรรมเนียมจะเยอะมาก การลดได้แม้แค่ 10% ก็ช่วยประหยัดได้เป็นมากเลยทีเดียว
ซึ่ง USDⓈ-M Futures หาก ชำระด้วย stablecoin เช่น USDT โดยมีค่าธรรมเนียม 0.02% (maker) และ 0.05% (taker) สำหรับผู้ใช้ VIP 0 รับส่วนลด 10% เมื่อชำระด้วย BNB โดยลดค่าธรรมเนียมเหลือ 0.018% (maker) และ 0.045% (taker)

ขั้นตอนที่ 6: ทดสอบการเทรดและเช็คค่าธรรมเนียม
มาลองเทรดจริงกันดีกว่า เพื่อดูว่า ได้ส่วนลดจริงๆ ไหม ไปที่หน้า Spot Trading โดยเลือก Trade แล้วเลือก Spot Trading เลือกคู่เทรดที่ต้องการ เช่น BTC/USDT หรือเหรียญอื่นๆ ที่คุณชอบ
ลองซื้อหรือขายทดสอบดูครับ เลือก “Buy” หรือ “Sell” แล้วเลือก “Market” เพื่อซื้อขายทันที ใส่จำนวนเงินเล็กน้อย เพื่อทดสอบ เช่น 20 USDT ก่อนที่จะกด Confirm ให้ดูที่บรรทัดด้านล่างที่เขียนว่า “Fee” ถ้าตั้งค่าถูกต้อง คุณจะเห็น “Fee: 0.XXX BNB” ไม่ใช่ USDT หรือเหรียญอื่น และค่าธรรมเนียมจะน้อยกว่าปกติ 25% เมื่อแน่ใจแล้วให้กด “Buy” หรือ “Sell” ได้เลย
หลังจากเทรดเสร็จ ให้เข้าไปเช็คที่ “Orders” แล้วเลือก “Trade History” คุณจะเห็นรายการเทรดที่เพิ่งทำ คลิกดูรายละเอียด จะเห็นว่า จ่ายค่าธรรมเนียมด้วย BNB และได้ส่วนลด 25% จริงๆ ถ้าเห็นแบบนี้แสดงว่า ตั้งค่าสำเร็จแล้ว
ตัวอย่าง การคำนวณส่วนลดให้เห็นภาพ
สเต็ปต่อมา เราจะดูตัวอย่างจริงๆ กันว่า เราประหยัดได้เท่าไหร่ สมมติคุณซื้อ BTC มูลค่า 10,000 USDT ถ้าไม่ใช้ BNB ค่าธรรมเนียมปกติจะเป็น 0.1% ซึ่งก็คือ 10 USDT แต่ถ้าคุณจ่ายด้วย BNB ค่าธรรมเนียมจะลดเหลือ 0.075% หรือก็คือ 7.5 USDT นั่นหมายความว่าคุณประหยัดไปได้ 2.5 USDT ต่อการออก 1 Order เลย
ถ้าเทรด Futures ล่ะ สมมติคุณเทรด Futures มูลค่า 10,000 USDT แบบ Taker ค่าธรรมเนียมปกติจะเป็น 0.05% หรือ 5 USDT แต่ถ้าใช้ BNB จ่าย ค่าธรรมเนียมจะลดเหลือ 0.045% หรือ 4.5 USDT ประหยัดได้ 0.5 USDT ต่อ Order
ถ้าคุณเทรดบ่อยๆ วันละหลายรอบ เดือนหนึ่งอาจประหยัดได้ร้อยหรือพันบาทเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรดของคุณ
ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเทรดวันละ 100,000 USDT (ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเทรดเดอร์ที่ใช้เลเวอเรจ) คุณจะประหยัดได้ 25 USDT ต่อวัน หรือประมาณ 750 USDT ต่อเดือน ซึ่งเทียบเป็นเงินบาท ก็ประมาณ 25,000-30,000 บาทเลย เห็นไหมว่า มันลดไปค่อนข้างเยอะ
เคล็ดลับการใช้ BNB ให้คุ้มค่าสุด

ที่มาภาพ : tradingeducation
อย่างแรกเลยคือ ต้องเติม BNB ไว้ให้พอเสมอ อย่าลืมเช็คยอด BNB บ่อยๆ อย่าให้มันหมด เพราะถ้า BNB หมด ระบบจะกลับไปหัก USDT หรือเหรียญอื่นแทน และคุณจะไม่ได้ส่วนลดเลย จึงแนะนำให้มี BNB อย่างน้อย 0.1-0.5 BNB ติดไว้เสมอ
เคล็ดลับต่อมาคือ การใช้ Limit Order แทน Market Order ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Limit Order คือ การตั้งราคาซื้อ/ขายเอง ซึ่งทำให้คุณเป็น Maker และค่าธรรมเนียมจะต่ำกว่า
ส่วน Market Order คือ การซื้อ/ขายทันที ซึ่งคุณจะเป็น Taker และค่าธรรมเนียมจะสูงกว่า ถ้าคุณไม่รีบมาก แนะนำให้ใช้ Limit Order จะช่วยประหยัดได้มากกว่า
นอกจากนี้ ยังมีเคล็ดลับเรื่องการเลือกคู่เทรด บางคู่เทรดใน Binance มีค่าธรรมเนียมต่ำ หรือแม้กระทั่งไม่มีค่าธรรมเนียมเลย เช่น BTC/USDT ที่ Tier 0 จะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ ลองไปเช็คที่ “Fee Schedule” ของ Binance เพื่อดูคู่เทรดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ แล้วเทรดในคู่เหล่านั้นให้มากที่สุด
อีกอย่างคือ การรักษาระดับ VIP ถ้าคุณเทรดมากๆ คุณจะได้ระดับ VIP ที่สูงขึ้น และ VIP ที่สูงขึ้น จะทำให้ค่าธรรมเนียมต่ำลงอีก พร้อมทั้งได้สิทธิพิเศษต่างๆ มากขึ้น ยิ่ง VIP สูง ยิ่งคุ้มค่ามาก ลองศึกษาเงื่อนไข การเป็น VIP แต่ละระดับดูนะ
ข้อควรระวังที่ต้องรู้
เรื่องแรกที่ต้องระวังคือ เรื่อง BNB หมดตอนเทรด ถ้า BNB ไม่พอจ่ายค่าธรรมเนียม ระบบจะหักเหรียญอื่นแทน และคุณจะไม่ได้ส่วนลด วิธีแก้คือ ต้องเช็คยอด BNB ก่อนเทรดทุกครั้ง หรือตั้งแจ้งเตือนเมื่อ BNB ต่ำกว่าจำนวนที่กำหนด เพื่อไม่ให้พลาดส่วนลด
อีกเรื่องที่คนมักลืมคือ การเปิดสวิตช์ BNB บางคนซื้อ BNB มาแล้ว แต่ลืมเปิดสวิตช์ ทำให้ไม่ได้ใช้ส่วนลดเลย น่าเสียดายมากๆ ถ้าคุณไม่แน่ใจ ให้ไปเช็คที่ Dashboard และหน้า Settings ของ Futures อีกทีว่า เปิดสวิตช์แล้วหรือยัง ต้องเปิดทั้งสองที่นะ ถึงจะได้ส่วนลดทั้ง Spot และ Futures
เรื่องราคา BNB ก็ต้องระวังเหมือนกัน เพราะ BNB เป็นคริปโต ราคาขึ้นลงได้ อย่าซื้อ BNB มากเกินไป ซื้อแค่พอใช้จ่ายค่าธรรมเนียมก็พอ ถ้าคุณเก็บ BNB ไว้เยอะมากเกินไป อาจเสี่ยงขาดทุน ถ้าราคาตก แต่ถ้าคุณเชื่อว่า ราคา BNB จะขึ้น ก็อาจเก็บไว้เป็นการลงทุนก็ได้นะ แค่อย่าลืมว่า มันมีความเสี่ยง
สุดท้ายคือ เรื่องส่วนลดที่อาจเปลี่ยนแปลง Binance อาจปรับอัตราส่วนลดเพิ่มอีกในอนาคต
ตอนนี้ในปี 2025 Spot ลด 25%, Futures ลด 10% แต่ในอนาคตอาจมีการปรับเปลี่ยน ดังนั้นเราควรติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ Binance เสมอเพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลสำคัญ
คำถามที่พบบ่อย
หลายคนถามว่า ถ้า BNB ในกระเป๋าหมดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น คำตอบคือ ระบบจะหักค่าธรรมเนียมจากเหรียญอื่นที่คุณมี เช่น USDT หรือ BTC โดยไม่ได้รับส่วนลด คุณต้องซื้อ BNB เพิ่ม เพื่อกลับมาใช้ส่วนลดอีกครั้ง
อีกคำถามคือ ต้องซื้อ BNB เท่าไหร่ถึงพอ จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับว่า คุณเทรดบ่อยแค่ไหน ถ้าเทรดวันละไม่กี่รอบ มี 0.1-0.2 BNB ซึ่งประมาณ 3,000-6,000 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ ก็ใช้ได้นานแล้ว แต่ถ้าคุณเทรดบ่อยมาก ควรมีสัก 0.5-1 BNB เพื่อความสบายใจ
บางคนอาจสงสัยว่าถ้าอยากหยุดใช้ BNB จ่ายค่าธรรมเนียมทำยังไง ง่ายมาก แค่กลับไปที่ Dashboard หรือ Settings แล้วปิดสวิตช์ “Using BNB to pay for fees” ก็เสร็จแล้ว ระบบจะกลับไปหักเหรียญอื่นแทน BNB ทันที
คำถามสุดท้ายคือ ต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้งหรือเปล่า คำตอบคือไม่ เมื่อคุณเปิดสวิตช์ BNB แล้ว มันจะใช้งานอัตโนมัติทุกครั้งที่เทรด จนกว่าคุณจะปิดสวิตช์เอง สะดวกมาก
สรุป ทำไมต้องใช้ BNB
การใช้ BNB เพื่อลดค่าธรรมเนียมการเทรดใน Binance คือ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักเทรดเลย เพราะมันประหยัดเงินได้จริงๆ ด้วยการลดค่าธรรมเนียม 25% สำหรับ Spot และ 10% สำหรับ Futures ซึ่งถ้าคุณเทรดบ่อยๆ จำนวนเงินที่ประหยัดได้ จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นจำนวนเยอะได้
ที่สำคัญคือ มันใช้งานง่ายมาก แค่ซื้อ BNB และเปิดสวิตช์เดียว ไม่ต้องทำอะไรซับซ้อน ไม่ต้องมีความรู้เทคนิคอะไรมาก มือใหม่ทำตามได้แน่นอน และอีกอย่างคือ เมื่อตั้งค่าครั้งเดียวแล้ว มันจะใช้ได้ตลอด ไม่ต้องมาตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง สะดวกสบายมาก
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ยิ่งคุณเทรดเยอะ ยิ่งประหยัดเยอะ ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่เทรดทุกวัน หรือเทรดในปริมาณมาก การใช้ BNB จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้หลายพันหรือหลายหมื่นบาทต่อเดือนเลย ซึ่งเงินส่วนนี้ คุณสามารถนำไปลงทุนต่อหรือทำอย่างอื่นได้
หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีใช้ BNB เพื่อลดค่าธรรมเนียม ถ้ามีคำถามหรือสงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ Binance หรือลองทำตามขั้นตอนที่บอกไปข้างต้น รับรองว่า ไม่ยากแน่นอน ขอให้เทรดสนุกและทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ

