<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ท๊อป จิรายุส” เผยเคยซื้อ Bitcoin ตอนราคาแค่ 400 ดอลลาร์ และเก็บ Ethereum ตั้งแต่ 4 ดอลลาร์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในวันที่คริปโตกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนรุ่นใหม่ หลายคนอาจเพิ่งเข้ามาศึกษา แต่ใครจะรู้ว่า ผู้ก่อตั้งบริษัท Bitkub อย่าง “ท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” เคยเริ่มต้นซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ตอนที่ Bitcoin ยังราคาหลักร้อย และซื้อ Ethereum แค่ราคาหลักหน่วยเท่านั้น

เรื่องนี้ถูกเปิดเผยกลางเวทีในงาน Bitkub Summit 2025 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ใน session panel discussion หัวข้อ “Topp table on stage unlocking wealth ปลดล็อกก้าวแรกสู่ความมั่งคั่ง”

ระหว่างบทสนทนาในเวทีนั้น คุณ CK Cheong (ซีเค เจิง) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “คุณซีเค” CEO แห่งบริษัท Fastwork ยังได้ถามคำถาม“ท๊อป จิรายุส” CEO ของ Bitkub ว่า  “พี่ท๊อปมีซื้อประกันภัยชีวิตบ้างไหมครับ?”

คุณท๊อป กล่าวว่า “ไม่เลยครับ มีแต่คริปโต ไม่มีประกันสุขภาพ ไม่มีประกันภัยอะไรเลย”

แต่แทนที่จะจบแค่คำตอบนั้น คุณท๊อปกลับใช้โอกาสนี้ อธิบายแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับ วัตถุประสงค์ของการซื้อประกัน โดยบอกว่า จริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์ของประกันมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ

ประกันอย่างแรกทุกคนเห็นด้วยอยู่แล้ว จ่ายเองไหว เพื่อความคุ้มครองทั่วไป ทุกคนรู้จักกันดี

แต่มีอันนึงคือ เพื่อการวางแผนภาษี ที่ชื่อว่า PPLI  (Private Placement Life Insurance) พูดง่ายๆ คือ ประกันของคนรวย 

คุณท๊อปอธิบายว่า ผลิตภัณฑ์ PPLI ที่นำเสนอโดย Private Banking นั้น มีลักษณะคล้ายกับ ทรัสต์ (Trust) แต่ในทางปฏิบัติ มันคือ “สัญญาพิเศษ (Contract)” ที่อาศัยความเชื่อมั่นในผู้จัดการสินทรัพย์ (Trustee) ให้ดูแลทรัพย์สินในกรมธรรม์นั้น ๆ

“คนทั่วไปเวลาซื้อประกัน เขาจ่ายเงินเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในอนาคต แต่คนรวย เขาจ่ายด้วยทรัพย์สิน (Asset) ไม่ใช่เงินสด”

โครงสร้างของประกันแบบนี้ จะถูกจัดในรูปแบบกองทุนรวม (Fund) ที่มีกองย่อยเฉพาะทาง (Sub-Fund) เช่น กองที่ดิน กองสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโตฯ ซึ่งผู้ทำประกันสามารถจ่ายด้วยสินทรัพย์เหล่านี้แทนเงินสดได้ และผู้รับผลประโยชน์ก็คือตัวเขาเอง

เมื่อสินทรัพย์ภายในกองทุนเกิดผลประโยชน์หรือปันผล ก็ไม่ต้องเสียภาษี เพราะถือเป็นรายได้จากประกัน ไม่ใช่รายได้จากการลงทุนโดยตรง 

อีกทั้งยังสามารถส่งต่อมรดกให้ลูกหลานได้โดยไม่ต้องเสียมรดก เพราะสินทรัพย์ทั้งหมดถูกจัดอยู่ในรูปของ “Wrappe” ที่ส่งต่อได้ทั้งโครงสร้าง

นอกจากนี้ คุณท๊อปยังเล่าว่า ยังมีประกันของคนรวย อีกแบบหนึ่งที่เน้นสร้างความมั่งคั่งระยะยาว โดยเฉพาะคนที่อายุน้อย เพราะความเสี่ยงต่ำ 

ประกันนี้จะนำเงินที่จ่ายไปลงทุนในสินทรัพย์นู้นนี่ แล้วจะให้เงินเราในอีก 50  ปีประกันนี้มันเป็นเกรด A ระดับ AAA+ ที่โคตรจะปลอดภัย แบงค์รับอยู่แล้ว สามารถเอาไปค้ำประกันที่ดิน แล้วก็กู้เงินออกมาได้ 90 % ของมูลค่า 

ขณะที่เงินก้อนนี้ มันโตขึ้นเรื่อยๆ 10% เราสามารถเอาไปลง s&p ไปเรื่อยๆ ส่วนที่ดิน ที่ค้ำในแบงค์ ก็เพิ่มมูลค่าไปเรื่อยๆ แล้วเราก็ดึงออกมา มากขึ้นเรื่อยๆ ปรากฎว่า วันที่เราเสียชีวิตไป เราเสียแค่ 10% ของเงินที่ฝาก

“ประกันแบบนี้มันไม่ใช่ประกันทั่วไป แต่มันคือ Financial Engineering ”

อย่างไรก็ตาม คุณท๊อปยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ทั้งหมดที่พูดมา ไม่ได้ทำเลย ลงทุนแต่ในคริปโตอย่างเดียว

ก่อนที่บทสนทนาจะเข้าสู่ช่วงเด็ดสุด เมื่อคุณ CK ถามคุณท๊อปแบบตรง ๆ ว่า

“พี่ท๊อปซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ราคาเท่าไหร่ครับ?”

คุณท๊อปตอบคำถามที่ทำให้คนทั้งฮอลล์อึ้งไปตาม ๆ กัน ว่า 

“Bitcoin โอโห… 400 ดอลลาร์ ส่วน Ethereum 4 ดอลลาร์ แต่ไม่ได้ซื้อ Solana”