สำนักงบประมาณรัฐสภา (CBO) ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นกลาง ได้ออกมาประเมินความเสียหายของภาวะ Government Shutdown ที่ยืดเยื้อ โดยระบุว่าอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่าง 7 พันล้าน ถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และอาจฉุดให้ GDP ในไตรมาสที่สี่หดตัวลงถึง 2% เนื่องจากการใช้จ่ายของรัฐบาลที่หยุดชะงัก
วิกฤตการเมืองยืดเยื้อ-ไร้ทางออก
ในวันพุธนี้ การปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลได้ล่วงเข้าสู่วันที่ 29 แล้วโดยยังไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุด สถานการณ์ในสภายังคงตึงเครียด โดย ส.ว. รีพับลิกันเรียกร้องให้เดโมแครตสนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อต่ออายุหน่วยงานของรัฐไปจนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน แต่ฝ่ายเดโมแครตก็ยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีด้านสุขภาพ (Affordable Care Act) ที่กำลังจะหมดอายุ เพื่อช่วยเหลือชาวอเมริกัน
เศรษฐกิจเสียหายถาวร-ข้าราชการเดือดร้อน
CBO ประเมินว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่รัฐบาลกลางไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนพนักงาน, ค่าสินค้าและบริการ รวมถึงสวัสดิการแสตมป์อาหารสำหรับผู้มีรายได้น้อย
“แม้ว่าการหดตัวของ GDP ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวกลับมาได้ในภายหลัง แต่ CBO ประเมินว่าจะมีเงินระหว่าง 7 พันล้าน ถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่จะสูญหายไปอย่างถาวร” ฟิลลิป สวาเกล (Phillip Swagel) ผู้อำนวยการ CBO กล่าวในจดหมาย
เขากล่าวว่า หากการ Shutdown ยุติลงในสัปดาห์นี้ เศรษฐกิจจะเสียหายถาวร 7 พันล้านดอลลาร์ แต่หากลากยาว 6 สัปดาห์ (ถึง 12 พ.ย.) ความเสียหายจะเพิ่มเป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ และหากลากยาว 8 สัปดาห์ (ถึง 26 พ.ย.) ความเสียหายจะพุ่งไปถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะนี้มีข้าราชการของรัฐบาลกลางประมาณ 750,000 คนที่ถูกพักงานนับตั้งแต่รัฐบาลขาดแคลนงบประมาณในวันที่ 1 ตุลาคม แม้ว่ารัฐบาลของทรัมป์จะได้ดำเนินมาตรการเพื่อจ่ายเงินให้กับทหาร, เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง แต่พนักงานของรัฐบาลกลางคนอื่นๆ ก็ยังคงต้องทำงานต่อไปโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
ที่มา: reuters

