<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จากคุกสู่อภัยโทษ “CZ” กลับมา “ครองอำนาจ” ในโลกคริปโตได้อย่างไร แม้ถูกแบนจาก Binance ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ชีวิตของ Changpeng Zhao (CZ) ในปีที่ผ่านมาฟังดูไม่ต่างอะไรจากหนังดราม่า เพราะหลังจากออกจากคุกเมื่อกันยายน 2024 เพราะละเมิดกฎหมาย AML ของอเมริกา เจ้าพ่อ Binance คนนี้ก็ค่อยๆ สร้างอิทธิพลกลับมาใหม่ แม้จะต้องจ่ายค่าปรับส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์ และโดน Binance ต้องจ่ายค่าปรับถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์ ยังไม่นับว่าเขาโดนแบนไม่ให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารที่ Binance อีกตลอดชีพ

แต่นั่นไม่สามารถหยุด CZ เอาไว้ได้เลย ในปี 2025 เขาค่อยๆ กลับมาเด่นดังอีกครั้ง โดยเปลี่ยนทวิต Bio ในโปรไฟล์ X  ของเขาเมื่อเดือนกันยายน จาก “ex-@binance” เป็น “@binance”  และที่สำคัญที่สุดคือวันที่ 23 ตุลาคม เขาได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดี Donald Trump  ซึ่งเปลี่ยนชีวิตเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ

จาก Binance Labs สู่ YZi Labs

แม้จะไม่ได้เป็นผู้บริหารอย่างเป็นทางการ แต่ CZ ยังถือหุ้น Binance อยู่ประมาณ 90% และ Forbes ประเมินว่าเขามีมูลค่าสุทธิราว 87.2 พันล้านดอลลาร์ (แม้ภายหลังเขาจะออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีสินทรัพย์มากขนาดนั้น) โดย 98% ของสินทรัพย์คริปโตส่วนตัวของเขาอยู่ใน BNB

ตอนนี้ Richard Teng เป็นคนบริหาร Binance แทน ส่วน CZ เองก็ไปมุ่งเน้นที่ YZi Labs (เดิมชื่อ Binance Labs) ซึ่งเป็นแขนงลงทุน โดยเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาหลังจากรีแบรนด์ในเดือนมกราคม บริษัทนี้ลงทุนในคริปโต, AI และไบโอเทคอย่างจริงจัง รวมถึงล่าสุดมีการประกาศให้ทุน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโปรเจกต์บน BNB Chain

Broccoli น้องหมา ผลักดัน Memecoin Boom

เรื่องที่น่ารักที่สุด คงเป็นเรื่องของ Broccoli สุนัข Belgian Malinois ของ CZ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ CZ โพสต์ยาวเกี่ยวกับการได้กลับมาเจอกับ Broccoli หลังจากติดปัญหาคดีในสหรัฐ และท้ายโพสต์บอกว่าตัวเองไม่ได้จะเปิด memecoin แต่ BNB Foundation อาจจะให้รางวัลกับโทเค็นยอดนิยม

โพสต์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของกระแส memecoin บน BNB Chain ทำให้ PancakeSwap มีปริมาณการเทรดแซงหน้าแพลตฟอร์ม meme หลักของ Solana ชั่วคราว และในเดือนตุลาคม BNB Chain ก็กลายเป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมในหลายๆ ตัวชี้วัด แม้แต่ Four.meme launchpad ยังแซง Pump.fun ของ Solana ไปได้ถึงสองสามวัน

ดราม่ากับ WSJ และเส้นทางสู่การอภัยโทษ

ความตึงเครียดระหว่าง CZ กับ The Wall Street Journal เริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม เมื่อหนังสือพิมพ์รายงานว่าครอบครัว Trump หารือเรื่องการซื้อหุ้นใน Binance.US และอาจมีความเชื่อมโยงกับการที่ CZ แสวงหาการอภัยโทษ CZ ปฏิเสธอย่างหนักแน่น บอกว่าไม่เคยคุยกับใครเรื่องดีล Binance.US เลย และเรียกบทความนี้ว่าเป็นการโจมตีทั้งประธานาธิบดีและวงการคริปโต

พอถึงเดือนพฤษภาคม WSJ ออกบทความอีกอันกล่าวหาว่า CZ ทำหน้าที่เป็น “fixer” แนะนำนักเคลื่อนไหว Bilal Bin Saqib ให้กับ World Liberty Financial ซึ่งเป็นโปรเจกต์คริปโตของครอบครัว Trump CZ เรียกมันว่า “hit piece อีกชิ้น” และบอกว่าเพิ่งเจอ Saqib ครั้งแรกในทริปเดียวกันนั้น ไม่ได้มีบทบาทแนะนำใครเลย

สมาชิกวุฒิสภาฝั่งประชาธิปัตย์ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องนี้ และในพอดแคสต์ช่วงนั้น CZ ยอมรับว่าทนายของเขากำลังเตรียมคำร้องขออภัยโทษอย่างเป็นทางการ

ศึกกับ FTX และ Hyperliquid

ชีวิตไม่ได้ราบรื่นไปซะทั้งหมด ในเดือนมิถุนายน CZ ยื่นคำร้องให้ศาลล้มละลายใน Delaware ยกฟ้อง FTX ที่ต้องการเรียกคืนเงินเกือบ 1.8 พันล้านดอลลาร์จากดีลซื้อหุ้นคืนปี 2021 CZ บอกว่าข้อกล่าวหานี้ไปไกลเกินไป เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นนอกอเมริกา

อีกเรื่องคือประเด็นดราม่ากับ Hyperliquid หลังจากเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งประวัติศาสตร์ 19 พันล้านดอลลาร์ โดยล่าสุด Jeff Yan ของ Hyperliquid กล่าวหาว่าเอ็กซ์เชนจ์ต่างๆ รวมถึง Binance มีการรายงานข้อมูลล้างพอร์ตต่ำกว่าความเป็นจริง แต่ CZ โต้กลับทันทีว่าขณะที่คนอื่นพยายามหลบ ปิดบัง หรือโจมตีคู่แข่ง แต่ Binance, Venus และพวกพ้องใน BNB Chain กลับยอมจ่ายเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์จากกระเป๋าตัวเองเพื่อปกป้องผู้ใช้งาน

อนาคตหลังการอภัยโทษ

ตอนนี้ที่ได้รับการอภัยโทษจาก Trump แล้ว CZ ก็ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยคดีความอีกต่อไป แต่กลายเป็นบุคคลที่หลายประเทศและโปรเจกต์คริปโตให้ความเคารพในฐานะผู้นำทางความคิด
โดยหลายประเทศเชิญเขาให้เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายดิจิทัล อย่างเช่น ประเทศมาเลเซีย ที่เชิญให้ CZ เข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง , ประเทศปากีสถาน แต่งตั้ง CZ เป็น ที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ในการพัฒนาระบบการเงินดิจิทัล และประเทศคีร์กีซสถาน แต่งตั้ง CZ ให้เป็นที่ปรึกษายุทธศาสตร์ ก่อนจะออก Stablecoin บน BNB Chain และเพิ่ม BNB เข้าสู่ทุนสำรองของประเทศ

สุดท้ายนี้ CZ ยังคงหนุนหลังโปรเจกต์ใน BNB Ecosystem, สนับสนุนผู้สร้างใน DeFi และยังถูกมองว่า เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาดคริปโตโลก

ที่มา : cointelegraph