เรื่องราวใน Reddit เปิดเผยว่ามีนักลงทุนรายหนึ่งได้สูญเงินไปกว่า $472,000 (ประมาณ 17 ล้านบาท) ภายในสัปดาห์เดียวจากการชอร์ตเซล หุ้นบริษัทไก่ทอดเกาหลี
นักลงทุนรายนี้เปิดเผยว่า แนวคิดเริ่มต้นการลงทุนของเขานั้น “เรียบง่าย” ตามหลักการลงทุนทุกประการ เขาเชื่อว่าด้วยจำนวนประชากรเกาหลีที่ลดลง และกระแสการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงการกินเจ/มังสวิรัติที่กำลังมาแรงทั่วโลก ธุรกิจไก่ทอดทอดมันน่าจะถึงจุดอิ่มตัวและราคาหุ้นควรจะปรับตัวลง จึงตัดสินใจชอร์ตหุ้นกลุ่มไก่ทอดเกาหลี
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝัน และกลายเป็น “Black Swan” หรือเหตุการณ์หงส์ดำในตำนาน นั่นคือ เจนเซน ฮวง ซีอีโอผู้ทรงอิทธิพลแห่ง Nvidia ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเทพเจ้าแห่งชิป AI ได้เดินทางมาเยือนกรุงโซล และที่สำคัญที่สุด เขาได้แวะไปรับประทานไก่ทอดกับเบียร์ที่ร้าน Khanbu Chicken
ภาพถ่ายที่ ฮวง ซีอีโอผู้ขับเคลื่อนอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ กำลังนั่งกินไก่ทอดกรอบๆ อย่างเอร็ดอร่อยบนโต๊ะอาหาร พร้อมด้วย เจ.วาย. ลี แห่ง Samsung และ ชุง อุยซอน แห่ง Hyundai ได้แพร่สะพัดไปทั่วโลกโซเซียลราวกับไฟลามทุ่ง ภาพเดียวนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ไวรัลแบบไม่น่าเชื่อ
ความไวรัลนี้ได้ส่งผลให้หุ้นของบริษัทไก่ทอดเกาหลี พุ่งทะยานขึ้นถึง 20-30% อย่างบ้าคลั่งในเวลาเพียงไม่กี่วัน และด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงนี้ ทำให้นักลงทุนผู้ชอร์ตเซลรายดังกล่าวถูก Margin Call และพอร์ตการลงทุนทั้งหมดของเขาก็ถูกกวาดหายไปในชั่วพริบตา
“ผมสูญเสียทุกอย่างไปหมดแล้ว และไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป” นักลงทุนกล่าวด้วยความสิ้นหวัง “ผมจะรู้ได้อย่างไรว่าไก่ทอดเกาหลีคืออนาคตของปัญญาประดิษฐ์?
นักเทรดผู้โชคร้ายรายนี้ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่เดิมพันผิดทางกับเทรนด์การรักสุขภาพของโลกอนาคต โดยมีอีกหนึ่งเรื่องราวในทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้น เมื่อนักเทรดชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งตัดสินใจเข้าซื้อหุ้น Beyond Meat (BYND) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช ด้วยความมั่นใจว่าราคาที่ระดับ $7 นั้นคือจุดต่ำสุดแล้ว โดยประเมินว่ากระแส Plant-based จะมาแรง แต่สุดท้ายราคาหุ้นกลับดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือต่ำกว่า $1 ในช่วงเวลาหนึ่ง กลายเป็นว่านักลงทุนทั้งสองที่เดิมพันกับเทรนด์โลกอนาคตที่เน้นสุขภาพ กลับต้องเผชิญกับความสูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเองก็มีเหตุการณ์ “หวยออกผิดหน้า” ที่ยากจะคาดเดาแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง เช่นกรณีที่ ‘Privacy Coin’ จู่ๆ ก็กลับมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงท่ามกลางตลาดที่ซบเซา ทั้งที่ก่อนหน้านี้กระแสส่วนใหญ่ต่างมุ่งเน้นไปที่ตลาดฟิวเจอรส์แบบกระจายอำนาจ (Perp DEX) โดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดทุนไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ล้วนมีปัจจัยพลิกผันที่อยู่เหนือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเสมอ
บทเรียนครั้งนี้จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ในตลาดหุ้นยุคใหม่ บางครั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ซึ่งบางครั้งพลังของกระแสไวรัลก็สามารถเอาชนะปัจจัยพื้นฐานหรือกราฟเทคนิคทั้งหมดได้
ที่มา : Reddit

