ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการนักวิเคราะห์และนักลงทุนสาย DeFi หรือ GameFi เมื่อ DappRadar แพลตฟอร์มจัดอันดับและวิเคราะห์ข้อมูล DApp ชื่อดังที่อยู่คู่ชาวคริปโตมานานกว่า 7 ปี ได้ประกาศ “ยุติการให้บริการ” อย่างเป็นทางการผ่านทาง X เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยทีมงานระบุว่าจะหยุดการติดตามบล็อกเชนและแอปพลิเคชันต่างๆ ในเร็วๆ นี้
ยอมรับตรงๆ “ไปต่อไม่ไหว”
ผู้ก่อตั้งทั้งสองคนอย่าง Skirmantas Januškas และ Dragos Dunica เปิดใจยอมรับว่า สาเหตุหลักของการปิดตัวคือ “ความไม่ยั่งยืนทางการเงิน” แม้ว่า DappRadar จะเป็นเหมือนหน้าปัด (Dashboard) สำคัญที่นักพัฒนาและนักลงทุนทั่วโลกใช้ดูข้อมูลรายวัน แต่โครงสร้างต้นทุนและสเกลของธุรกิจในปัจจุบันกลับไม่สอดคล้องกับสภาวะตลาด ทำให้การแบกรับภาระต่อไปเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ทันทีที่มีข่าวออกมา ราคาเหรียญ RADAR ของแพลตฟอร์มก็ดิ่งลงเหวกว่า 30% ลงไปซื้อขายแถวๆ 0.00072 ดอลลาร์ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้ถือเหรียญ ซึ่งทางทีมงานรับปากว่าจะมีการออกประกาศแยกต่างหากเพื่อชี้แจงชะตากรรมของเหรียญ RADAR และทิศทางของ DAO ในอนาคต
สัญญาณอันตราย? เมื่อ “Data” กลายเป็นของแพง
การล่มสลายของ DappRadar ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นภาพสะท้อนของ “วิกฤตโครงสร้างพื้นฐาน” ในปี 2025 ก่อนหน้านี้เราได้เห็นการปิดตัวหรือปรับโครงสร้างของบริษัทดังๆ อย่าง eXch, ตลาด NFT อย่าง X2Y2 และ Mango Markets มาแล้ว
ปรากฏการณ์นี้ชี้ให้เห็นว่า โครงสร้างพื้นฐานของโลกคริปโตกำลังโตเร็วกว่า “โมเดลการทำเงิน” เมื่อเงินทุนเริ่มฝืดเคืองและรายได้จากธุรกรรมลดลง บริษัทที่เคยรุ่งเรืองจากยุคเฟื่องฟูในปี 2021-2022 จึงต้องเผชิญกับกำไรที่บางเฉียบจนอยู่ไม่ได้
ผลกระทบต่อชาว DeFi
การจากไปของ DappRadar ทิ้งรูโหว่ขนาดใหญ่ไว้ในระบบนิเวศ เพราะที่ผ่านมาแพลตฟอร์มนี้เปรียบเสมือน “คนกลาง” ที่คอยตรวจสอบความโปร่งใส ติดตามกระแสเงินทุน (TVL) และแจ้งเตือนเรื่องการแฮ็กต่างๆ ตั้งแต่เคสของ Hyperliquid ไปจนถึง Balancer
เมื่อขาดแพลตฟอร์มที่เป็นกลางและเข้าถึงง่าย การตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโปรเจกต์ต่างๆ จะทำได้ยากขึ้น ข้อมูลจะกระจัดกระจายไปตามเครื่องมือเฉพาะทาง ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านได้ลำบากกว่าเดิม

