<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ปลดล็อกครั้งใหญ่! ธนาคารสหรัฐฯ ‘ถือคริปโตเองได้แล้ว’ เพื่อจ่ายค่า Gas และทดสอบระบบ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถือเป็นข่าวดีที่ช่วยปลดล็อกคอขวดในการทำงานของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ อย่างแท้จริง เมื่อ สำนักงานบัญชีกลาง (OCC) หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ ได้ออกหนังสือชี้แจงฉบับล่าสุด (Interpretive Letter #1186) ในวันนี้ (18 พ.ย. 2025) โดยสาระสำคัญคือการอนุญาตให้ธนาคารสามารถ ถือครองคริปโตเคอร์เรนซีในงบดุลของตัวเอง ได้อย่างถูกกฎหมาย เพื่อใช้ในการดำเนินงานหลังบ้าน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เปรียบเสมือนการเคลียร์ทางให้ธนาคารสามารถทำธุรกรรมบนบล็อกเชนได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องหลบเลี่ยงหรือใช้วิธีซับซ้อนเหมือนที่ผ่านมา

จบปัญหา ไม่มีเหรียญจ่ายค่า Gas

ที่ผ่านมา ธนาคารที่ต้องการทำธุรกรรมบน Blockchain มักเจอปัญหาโลกแตกทางเทคนิค คือระบบต้องใช้ “Native Token” (เช่น ETH) เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเครือข่าย หรือที่เราเรียกกันว่า ค่า Gas แต่ด้วยกฎระเบียบเดิม ธนาคารไม่สามารถถือเหรียญเหล่านี้ได้ ทำให้ต้องไปจ้างตัวแทนหรือคนกลาง (Third-party) มาจัดการจ่ายให้ ซึ่งทั้งยุ่งยาก ล่าช้า และมีความเสี่ยง

คำสั่งใหม่นี้เข้ามาแก้ปมดังกล่าวโดยตรง โดยอนุญาตให้ธนาคารซื้อและถือเหรียญเหล่านี้ไว้เองได้เลย เพื่อความคล่องตัวในการทำธุรกรรม เปรียบเหมือนการที่ธนาคารต้องสำรองเงินสกุลต่างประเทศไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า นั่นเอง

ไฟเขียวให้ถือเพื่อทดสอบระบบได้ด้วย

นอกจากการจ่ายค่าธรรมเนียมแล้ว OCC ยังเปิดช่องให้ธนาคารที่กำลังซุ่มพัฒนาโปรดักต์คริปโต (เช่น ระบบรับฝากสินทรัพย์ หรือ Custody) สามารถถือครองคริปโตเพื่อใช้ ทดสอบระบบ ได้ด้วย

เหตุผลคือ ถ้าธนาคารจะสร้างระบบที่มีความปลอดภัยสูง พวกเขาจำเป็นต้องมีเหรียญจริงๆ ไว้ทดสอบการโอน การรับฝาก หรือการบันทึกบัญชี เพื่อให้มั่นใจว่าระบบเสถียรก่อนเปิดให้ลูกค้าใช้งานจริง การห้ามถือเหรียญทำให้การทดสอบทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่ง OCC มองว่านี่เป็นเรื่องจำเป็นในเชิงเทคนิค

ให้ถือเพื่อใช้งาน ห้ามเก็งกำไร

อย่างไรก็ตาม OCC ยังคงขีดเส้นแดงไว้อย่างชัดเจนว่า ห้ามธนาคารผันตัวเป็นนักเทรด โดยเด็ดขาด โดยมีเงื่อนไขเข้มงวดคือ

  1. ถือให้น้อยที่สุด (De Minimis) ปริมาณเหรียญที่ถือต้องมีสัดส่วนน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับเงินกองทุนของธนาคาร
  2. ใช้เฉพาะที่จำเป็น ต้องถือแค่พอใช้จ่ายค่าธรรมเนียมหรือทดสอบระบบตามแผนงานเท่านั้น
  3. ห้ามเก็งกำไร ห้ามถือเพื่อหวังผลตอบแทนจากราคาที่ขึ้นลงโดยเด็ดขาด

ปูทางสู่อนาคต Stablecoin

ในประกาศยังมีการเชื่อมโยงไปถึง GENIUS Act of 2025 กฎหมาย Stablecoin ฉบับใหม่ของสหรัฐฯ โดยมองว่าการปลดล็อกให้ธนาคารมีความพร้อมทางเทคนิคในการจัดการเหรียญหน้างานได้เองแบบนี้ จะเป็นรากฐานสำคัญให้ธนาคารสามารถรองรับธุรกรรม Stablecoin และนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต

ที่มา: OCC