ผลสำรวจล่าสุดของ Zerohash ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 18–40 ปี และมีรายได้ต่อปีตั้งแต่ $100,000 ถึง $1,000,000 ได้เริ่มย้ายเงินลงทุนออกจากที่ปรึกษาการเงินแบบดั้งเดิม เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถให้บริการด้านการลงทุนในคริปโตได้
ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 500 คน พบว่า นักลงทุนถึง 35% ได้ย้ายเงินลงทุนออกจากที่ปรึกษาการเงินทันที เพียงเพราะไม่เสนอการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี โดยการย้ายเงินกว่า 50% ของทั้งหมด ซึ่งเป็นการโอนย้ายเงินจำนวนมาก มูลค่าระหว่าง $250,000 ถึง $1,000,000 ดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนที่มีรายได้สูง ยังแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่า $500,000 ดอลลาร์ต่อปี กว่าครึ่งหนึ่งได้เปลี่ยนไปใช้ที่ปรึกษาการลงทุนรายใหม่ เนื่องจากที่ปรึกษาคนเดิม “ไม่มีผลิตภัณฑ์คริปโตให้ลงทุน”
Zerohash ระบุว่า ความมั่นใจในตลาดคริปโตของนักลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 80% สาเหตุหลักมาจากการที่สถาบันขนาดใหญ่ เช่น BlackRock, Fidelity, และ Morgan Stanley เข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น
และที่สำคัญคือ 84% ของผู้ตอบแบบสอบถาม วางแผนที่จะเพิ่มการถือครองคริปโตใน 12 เดือนข้างหน้า โดยเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่า จะ “เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในคริปโตแบบหนัก ๆ”
Zerohash จึงสรุปว่า “คริปโตได้กลายเป็นส่วนสำคัญของพอร์ตการลงทุนในยุคใหม่แล้ว” และที่ปรึกษาทางการเงินรายใดที่ไม่ปรับตัว ก็จะเสี่ยงต่อการเสียลูกค้า
ซึ่งลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้ต้องการเพียงแค่การรวมคริปโตเข้ากับพอร์ตแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังต้องการเก็บเหรียญแบบมีประกัน พร้อมกับการเข้าถึงที่สอดคล้องกับกฎหมาย โดย 92% ยังต้องการลงทุนในเหรียญที่หลากหลายมากกว่าแค่ Bitcoin หรือ Ethereum
ซึ่งฝั่งบริษัทบริหารสินทรัพย์ ก็กำลังเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์คริปโตรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในสาย Staking ที่สามารถสร้างผลตอบแทน (Yield) ได้ โดยBlackRock ได้ยื่นเอกสารเพื่อเตรียมเปิดตัว Staked ETH ETF
ในขณะที่ 21Shares เปิดตัว Solana ETF (TSOL) ในตลาด CBOE ซึ่งมาพร้อมกับมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในวันเปิดตัวสูงถึง $100 ล้านดอลลาร์ และ 21Shares ยังเป็นผู้บริหาร Solana ETP ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย (มี AUM มากกว่า $1$ พันล้านดอลลาร์)
ขณะนี้ตลาด Solana กำลังเป็นที่จับตาอย่างมาก เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามาอย่างพร้อมเพรียง เช่น Fidelity, Bitwise, VanEck, และ Grayscale ทำให้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม SOL สามารถดึงดูดเงินไหลเข้ารวมกันได้แล้วเกิน $420 ล้านดอลลาร์
ที่มา : cryptonews

