<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Michael Saylor ชี้! เป็นบริษัทซอฟต์แวร์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ที่ถือ Bitcoin และไม่ได้ขายมัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หุ้น MicroStrategy (MSTR) ยังคงผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ Michael Saylor CEO ของบริษัทต้องออกมาแสดงจุดยืนต่อสาธารณะอีกครั้ง เพื่อคลายความกังวลของนักลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น นับเป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึงสองสัปดาห์ที่เขาต้องออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง

ก่อนหน้านี้ Saylor เพิ่งออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าบริษัทกำลังแอบขาย Bitcoin แต่ล่าสุดกระแสความกังวลก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง หลัง JPMorgan ออกคำเตือนว่า MicroStrategy อาจถูกถอดออกจากดัชนีหุ้นภายใต้ MSCI ซึ่งอาจทำให้กองทุนที่ติดตามดัชนีต้องบังคับขายหุ้น MSTR ออกมา ส่งผลให้ราคาปรับฐานหนักกว่าเดิม

แรงกดดันดังกล่าวฉุดให้หุ้น MSTR ร่วงลงทันที และกระตุ้นให้ Saylor ต้องออกมาชี้แจงอีกรอบ

Saylor ย้ำ “MicroStrategy ไม่ใช่กองทุน Bitcoin”

Saylor ได้ทวีตโต้กลับข่าวที่บอกว่า MSCI จะถอดหุ้นของบริษัทออกจากดัชนีของ MSCI เขายืนยันอย่างหนักแน่นว่า MicroStrategy ไม่ได้มีโครงสร้างคล้ายกองทุนหรือทรัสต์ที่ถือ Bitcoin โดยได้กล่าวว่า

“MicroStrategy ไม่ใช่กองทุน ไม่ใช่ Trust และไม่ใช่บริษัทโฮลดิ้ง”

“เราเป็นบริษัทที่มีธุรกิจซอฟต์แวร์มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ และใช้กลยุทธ์ด้านเงินทุนด้วย Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น”

Saylor พยายามชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีรายได้จากธุรกิจจริง และโครงสร้างพื้นฐานยังแตกต่างจาก ETF หรือกองทุนที่ถือ Bitcoin แม้ว่าราคาหุ้น MSTR จะเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับ Bitcoin อย่างใกล้ชิดก็ตาม

คำเตือนของ JPMorgan จุดชนวนความกังวลครั้งใหม่

ต้นตอของความผันผวนรอบล่าสุดเกิดจากรายงานของ JPMorgan ซึ่งระบุว่า MSCI อาจพิจารณาจัดประเภทหุ้น MicroStrategy ใหม่ และอาจนำไปสู่การถูกถอดออกจากดัชนี หากมองว่าบริษัทมีความคล้ายคลึงกับบริษัทเพื่อการลงทุนเกินไป

หากสถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริง กองทุนที่ต้องถือหุ้นตามดัชนีอาจจำเป็นต้องขายหุ้น MSTR ออก ขยายแรงกดดันต่อราคาที่อ่อนตัวอยู่แล้ว

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ยังชี้ว่าความสำคัญที่ MicroStrategy ให้กับ Bitcoin ในงบดุลกำลังเพิ่มความซับซ้อนในการพิจารณาของผู้จัดทำดัชนี ซึ่งนำไปสู่ความไม่แน่นอนในอนาคต