กระแสความไม่ไว้วางใจต่อ JP Morgan ปะทุอย่างรุนแรงในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เมื่อมีรายงานว่า ประชาชนและนักลงทุนหลายพันคนกำลังทยอยปิดบัญชีและถอนเงินออกจากธนาคาร หลังเกิดข้อกล่าวหาว่า JP Morgan อาจเกี่ยวข้องกับ “การโจมตีเชิงกลยุทธ์” ต่อ Bitcoin และหุ้น Strategy ($MSTR) โดยเจตนา ทำให้ตลาดร่วงแรงในช่วงสั้น ๆ จนสร้างความเสียหายให้กับผู้ถือครองจำนวนมากทั่วโลก
แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อมูลบนแพลตฟอร์ม X ถูกเผยแพร่ในวงกว้าง ระบุว่าการเทขายครั้งใหญ่และการจัดวางคำสั่งที่ผิดปกติในช่วงเวลาก่อนข่าวร้ายอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่น่าจะเป็นปฏิบัติการที่ “วางแผนไว้ล่วงหน้า” เพื่อกดราคา Bitcoin และทำลายความเชื่อมั่นของผู้ถือ MSTR ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก นักลงทุนรายย่อยบางรายเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “การลอบทำร้ายคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดของปี”
เหตุการณ์นี้ทำให้ความไม่ไว้วางใจต่อ JP Morgan เพิ่มทวีคูณ โดยเฉพาะหลังจากประวัติด้านความโปร่งใสของธนาคารถูกตั้งคำถามอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งจากคดีเก่าอย่าง Jeffrey Epstein และการถูกปรับหลายครั้งจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ผู้ใช้ออนไลน์จำนวนมากระบุว่าเหตุการณ์ล่าสุดนี้เป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจถอนเงินออกจากธนาคารทันที
กระแสดังกล่าวยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องบนโลกโซเชียล โดยหลายคนประกาศปิดบัญชีพร้อมภาพยืนยัน ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่าการเคลื่อนไหวนี้อาจสะท้อนถึงแนวโน้มใหม่ของนักลงทุนที่กำลังเปลี่ยนจากระบบธนาคารดั้งเดิมไปสู่ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ ( DeFi) และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถาวร ความกังวลจึงไม่ใช่เพียงการโจมตี Bitcoin แต่เป็นการสั่นคลอนความเชื่อมั่นต่อทั้งสถาบันการเงินระดับโลกอย่าง JP Morgan ในระยะยาวด้วย

