การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum ที่มีชื่อว่า Fulu-Osaka หรือที่เรียกกันว่า Fusaka มีกำหนดจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า วันที่ 3 ธ.ค.
การอัปเกรดนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นเพิ่มพื้นที่ Blob อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อขยายความสามารถในการรองรับข้อมูลจาก Blockchain Layer 2 ให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย
เนื่องจากปัจจุบันเครือข่าย Ethereum สามารถรองรับ Blob ได้เพียง 6 blobs ต่อ 1 block ซึ่งก็เริ่มเข้าใกล้เพดานการใช้งานแล้ว
Sassal.eth นักวิเคราะห์ชื่อดัง ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน โดยหลังจากการอัปเกรด Fusaka เสร็จสมบูรณ์แล้ว จะเริ่มมีการขยายพื้นที่ Blob เพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ในวันที่ 9 ธ.ค. เพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายต้องรับภาระหนักเกินไปในทันที
การอัปเกรด Fusaka จะมีการเปิดตัวระบบใหม่ที่สำคัญที่ชื่อ Peer Data Availability Sampling (PeerDAS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้โหนดสามารถตรวจสอบความพร้อมในการใช้งานของข้อมูลได้ โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดข้อมูลบล็อกเชนทั้งก้อน ส่งผลให้เกิดประโยชน์ทั้งลดภาระโหนด และ ช่วยให้เครือข่าย Layer 2 ทำงานได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การเปิดตัวระบบ PeerDAS นี้ นับเป็นหนึ่งในการอัปเกรดที่ได้รับการคาดหวังมากที่สุดนับตั้งแต่การอัปเกรด Pectra เป็นต้นมา
เครือข่าย Ethereum มีแผนการอัปเกรดที่มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 7 มกราคม จะมีแผนการอัปเกรดที่ชื่อ Blob Parameter Only fork (BPO fork) เพื่อเพิ่มจำนวน Blob ต่อบล็อก เป็น 14 blobs ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง +133%
นอกจากนี้ ในปี 2026 จะมีการทำ BPO รอบใหม่ เพื่อดัน Gas Limit ให้เพิ่มขึ้นอีก 200% การดำเนินการทั้งหมดนี้คาดว่า จะทำให้การใช้งาน Layer 2 บน EVM พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยให้การโหลดข้อมูลเร็วขึ้น และค่าธรรมเนียมถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ
และในช่วงปลายปี 2026 ยังมีการอัปเดตใหญ่ที่ชื่อว่า Gloas-Amsterdam ซึ่งเป็นการรวม 25 EIPs และมีเป้าหมายในการช่วย ลด block time ของ Ethereum ลง 50%
ที่มา : u.today