ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ Bitcoin (BTC) สามารถดีดตัวทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 92,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นมาได้สำเร็จ ท่ามกลางการจับตามองของนักลงทุนทั่วโลกว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับไปสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) หรือจะเป็นเพียงการเด้งขึ้นชั่วคราว
ภาพราคา bitcoin จาก google
นักวิเคราะห์มองว่า การที่ราคาสามารถยืนเหนือระดับ 92,000 ดอลลาร์ได้ ถือเป็นสัญญาณบวกในระยะสั้น แต่ภารกิจสำคัญที่รออยู่ข้างหน้าคือการฝ่าด่านหินในโซน 92,000 – 95,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปให้ได้ ซึ่งเป็นโซนที่มีนัยสำคัญทางจิตวิทยาและทางเทคนิคอย่างมาก
ภาพกราฟราคา bitcoin จาก swissblock
ข้อมูลจาก Swissblock ชี้ว่า จุดเปลี่ยนเทรนด์ที่แท้จริงคือการที่ Bitcoin ต้องกลับไปยืนเหนือระดับราคาเปิดของปีที่ 93,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ได้ และต้องสามารถทวงคืนพื้นที่ 94,000 – 95,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว
Heatmap การกระจายตัวราคาฐาน Bitcoin จาก Glassnode
สอดคล้องกับข้อมูลจาก Glassnode ที่ระบุว่า มีปริมาณ Bitcoin จำนวนมหาศาลถึงประมาณ 500,000 BTC ที่ถูกซื้อขายและติดอยู่ในโซนราคา 93,000 – 96,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเปรียบเสมือนกำแพงแนวต้านขนาดใหญ่ หากสามารถผ่านด่านนี้ไปได้ แนวต้านถัดไปจะไปรออยู่ที่บริเวณ 100,000 – 108,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว
ยอด volume ของการโอน onchain จาก Glassnode
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังน่ากังวลคือ ปริมาณการโอน Bitcoin บนเครือข่าย (On-chain Transfer Volume) และปริมาณการซื้อขายในตลาดสปอต (Spot Trading Volume) ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับช่วงพีคของวัฏจักรขาขึ้นรอบนี้ โดยปริมาณการโอนบนเครือข่ายเฉลี่ย 7 วัน ลดลงถึง 20% เหลือเพียง 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการปรับตัวขึ้นในรอบนี้ยังขาดแรงสนับสนุนจากนักลงทุนในวงกว้าง
Bitcoin spot volumeจาก Glassnode
กุญแจสำคัญในขณะนี้คือการจับตามองปริมาณการซื้อขายในตลาดสปอต หากเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวและแรงซื้อกลับมามีอิทธิพลเหนือแรงขาย (Buyer-Dominant) อย่างชัดเจน ก็อาจเป็นสัญญาณยืนยันว่าการปรับตัวขึ้นเหนือ 92,000 ดอลลาร์ในครั้งนี้มีความแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่การพุ่งขึ้นรอบใหม่ เพื่อกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ประมาณ 123,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกครั้ง
โดยสรุปแล้ว แม้ Bitcoin จะสามารถทะลุแนวต้าน 92,000 ดอลลาร์ขึ้นมาได้ แต่สถานการณ์ยังคงมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า การจะไปต่อได้อย่างมั่นคงจำเป็นต้องอาศัยแรงซื้อและปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่จะสามารถฝ่าด่านแนวต้านสำคัญต่างๆ ไปได้ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบริหารความเสี่ยงอย่างระมัดระวังที่มา: cointelegraph