วัน Black Friday ปี 2025 อาจถูกจดจำในฐานะวันที่ตลาดการเงินโลกเจอกับ “ดีล” ที่ไม่มีใครอยากได้ เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 3 อย่างมาบรรจบกันในวันเดียว ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกหยุดชะงัก เผยให้เห็นความเปราะบางของระบบเดิม ในขณะที่โลกคริปโตกลับแสดงความแข็งแกร่งสวนทาง
ดีลที่ 1: ดอลลาร์สหรัฐฯ “ลดแลกแจกแถม” ครั้งใหญ่
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ร่วงลงอย่างหนัก ทำสถิติรายสัปดาห์ร่วงแรงที่สุดในรอบ 4 เดือน โดยปรับตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบครึ่งปี สาเหตุหลักมาจากการที่ตลาดเริ่มมองว่า Fed จะ “ลด” ดอกเบี้ยลงถึง 90 Basis Points ภายในสิ้นปี 2026 แถมผู้จัดการกองทุนระดับโลกยังเทขายดอลลาร์จนการถือครองเหลือต่ำสุดในรอบ 20 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นที่ลดลงในสกุลเงินหลักของโลก
ดีลที่ 2: เงินเยน “พุ่งสวนทาง” และ BOJ เตรียมขยับ
ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า เงินเยนญี่ปุ่นกลับแข็งค่าขึ้นทะลุ 156 เยนต่อดอลลาร์ หลังตัวเลข CPI โตเกียวพุ่ง 2.8% สูงกว่าคาดและเกินเป้า BOJ ถึง 40% ข้อมูลนี้เพิ่มน้ำหนักว่า BOJ อาจ “ขึ้น” ดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญ
ดีลที่ 3: ระบบการเงินโลก “น็อกกลางอากาศ”
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดค่าเงิน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อเวลา 03:00 น. GMT (10:00 น. ตามเวลาประเทศไทย) เมื่อ CME Group ตลาดอนุพันธ์ใหญ่ที่สุดในโลก ต้องระงับการซื้อขายทั้งหมด เพราะระบบระบายความร้อนที่ศูนย์ข้อมูล CyrusOne ล้มเหลว ส่งผลให้ 90% ของการซื้อขายอนุพันธ์ทั่วโลกหยุดชะงัก กลไก arbitrage ที่เชื่อมโยงตลาดต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้
Crypto “ยืนหนึ่ง” ท่ามกลางวิกฤต
ในขณะที่ตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเจอปัญหาหนัก สัญญา Bitcoin Options มูลค่า 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ กลับสามารถหมดอายุและชำระราคาได้ตามปกติบนแพลตฟอร์ม Deribit และเครือข่าย DeFi ต่างๆ ก็ยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการดำเนินงานของเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี ที่ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน โดยไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์ที่มีความเสี่ยง
เหตุการณ์ในวัน Black Friday ปี 2025 นี้ เป็นเหมือนสัญญาณเตือนภัยที่ชัดเจนถึงความเปราะบางของระบบการเงินแบบดั้งเดิม และความจำเป็นในการปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีคริปโตเคอร์เรนซี ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกในอนาคต
ที่มา: @shanaka86