เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา Grayscale ผู้จัดการกองทุนยักษ์ใหญ่เผยแพร่บทวิเคราะห์ที่ทำให้ตลาดคริปโตต้องหันมาจับตามอง โดยระบุว่า การเทขาย Bitcoin อย่างหนักหน่วงในปี 2025 ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่การปรับฐานชั่วคราว ไม่ใช่จุดจบของขาขึ้นอย่างที่หลายคนกังวล
Grayscale ชี้ชัดว่า Bitcoin กำลังจะฉีกตำรา “วัฏจักร 4 ปี” แบบดั้งเดิมทิ้งไป และมีศักยภาพเต็มเปี่ยมที่จะพุ่งทะยานทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในปี 2026 โดยอ้างอิงจากตัวชี้วัดสำคัญอย่างค่า Option Skew ที่พุ่งสูงกว่าระดับ 4 ซึ่งสะท้อนว่า นักลงทุนสถาบันได้ทำการป้องกันความเสี่ยงขาลงไว้อย่างครอบคลุมแล้ว ดังนั้นแรงขายแบบ Panic Sell จึงน่าจะสิ้นสุดลง

สถานการณ์ของกระแสเงินทุนก็เริ่มส่งสัญญาณบวกสอดคล้องกัน แม้เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจะเป็นฝันร้ายของ Bitcoin ETF ด้วยยอดเงินไหลออกสุทธิกว่า 3.48 พันล้านดอลลาร์ แต่ล่าสุดทิศทางของเงินเริ่มเปลี่ยน เมื่อกองทุนต่างๆ มียอดไหลเข้าติดต่อกันถึง 4 วันติด บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นกำลังฟื้นตัว

ในขณะที่ liya Kalchev นักวิเคราะห์ของ Nexo มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือ การล้างเลเวอเรจครั้งใหญ่ ไม่ใช่การพังทลายของโครงสร้างตลาด แต่โจทย์สำคัญในระยะสั้นคือ Bitcoin จำเป็นต้องรีบทวงคืนพื้นที่ระดับ $90,000 ต้นๆ ให้ได้โดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะร่วงลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ $80,000 กลางๆ
สำหรับปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในปี 2026 นั้น Grayscale มองไปที่สองตัวแปรหลัก คือ นโยบายดอกเบี้ยของเฟดที่ตลาดให้โอกาสสูงถึง 87% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ตามข้อูลจาก CME Fed Watch ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้กับสินทรัพย์เสี่ยง
ประกอบกับความคืบหน้าในสหรัฐฯ เรื่องกฎหมายคริปโต โดยเฉพาะ CLARITY Act หรือร่างกฎหมายโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่คาดว่าจะพร้อมบังคับใช้ภายในต้นปีหน้า หากปัจจัยเหล่านี้ เป็นไปตามคาด ปี 2026 จะไม่ใช่ปีแห่งการพักตัวตามวัฏจักรเดิม แต่จะเป็นปีที่ Bitcoin สร้างประวัติศาสตร์ หรือจุดสูงสุดใหม่ที่โลกต้องจารึก
ที่มา:cointelegraph

