Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Strategy ออกมาวิเคราะห์คาดการณ์ก้าวสำคัญครั้งใหญ่ของอนาคต Bitcoin โดยระบุว่า Bitcoin อาจมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง $20 ล้านล้านภายใน 4–8 ปี ข้างหน้า และอาจพุ่งแรงขึ้นอีกไปแตะ 200 ล้านล้านดอลลาร์ได้ภายใน 20 ปีข้างหน้าหากการยอมรับในระดับโลกเติบโตต่อเนื่องตามแนวโน้มปัจจุบัน ทั้งยังย้ำว่าประเทศที่เข้าใจเทคโนโลยีและถือ Bitcoin ก่อนจะได้เปรียบอย่างมหาศาลในระบบเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้น
Saylor ชี้ว่า Bitcoin ไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เก็งกำไรเหมือนที่ใครหลายคนคิดแต่มันเป็น “ทรัพย์สินคุณภาพสูงที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ” เพราะมีจำนวนจำกัด, มีความโปร่งใสและไม่สามารถถูกควบคุมโดยรัฐบาลใดทำให้มันมีศักยภาพที่จะกลายเป็นฐานการเงินระดับโลกในอนาคต เขาเสริมว่ามูลค่าตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากความต้องการเก็บออมในรูปแบบใหม่ที่ปลอดภัยกว่าเงินเฟ้อและนโยบายการเงินที่ผันผวน
นอกจากนี้ Saylor ระบุเอาไว้เพิ่มเติมด้วยว่าสหรัฐฯเองก็ควรจะถือ Bitcoin เช่นกัน สหรัฐควรเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการเงิน ไม่ใช่ตามหลังประเทศอื่น หากสหรัฐถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ยุทธศาสตร์ จะช่วยเสริมความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ปกป้องประเทศจากความเสี่ยงด้านการเงินระดับโลก และสร้างความได้เปรียบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในยุคดิจิทัล
การคาดการณ์ของ Saylor อาจดูเหมือนเพ้อฝันแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดก็ให้ค่าและไม่ได้มองข้ามมุมมองของเขาเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นผู้เล่นสถาบันที่ซื้อ Bitcoin จำนวนมหาศาล และมุมมองของเขามักสะท้อนแนวคิดของนักลงทุนที่เล่นเกมยาวในตลาดคริปโต ความเห็นล่าสุดยิ่งตอกย้ำว่าช่วงหลายปีข้างหน้า Bitcoin อาจกำลังเข้าสู่รอบของการยอมรับระดับมหภาคอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

