ปัจจุบัน XRP ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกองทุน Spot ETF ที่ทำสถิติเม็ดเงินไหลเข้าแตะ 1,000 ล้านดอลลาร์ได้เร็วที่สุดในบรรดา Altcoin แถมยังแซงหน้าเหรียญอันดับสองของโลกอย่าง Ethereum ได้อีกด้วย หลังบรรดายักษ์ใหญ่ตลาดทุนอย่าง Canary, Grayscale, Bitwise และ Franklin เร่งสะสมเพื่อรับความต้องการจากสถาบันที่พุ่งไม่หยุด
กระแสเงินทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสะท้อนชัดว่า นักลงทุนระยะยาวกำลังเพิ่มน้ำหนักของพอร์ตให้กับเหรียญ XRP แม้ตลาด Spot จะยังคงผันผวน แต่เม็ดเงินผ่าน ETF กลับแข็งแรงสวนทางอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ระบุว่า การเติบโตครั้งนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของตลาด หลังจากที่ปีนี้มีการเปิดตัว Crypto ETF ในสหรัฐฯ มากกว่า 40 กองทุน ซึ่งบ่งชี้ถึง “ความต้องการซื้อที่อัดอั้นมานาน” สำหรับสินทรัพย์คริปโตที่มีการกำกับดูแล
เขาเสริมว่า การที่ Vanguard เปิดให้บัญชีเกษียณ และบัญชีซื้อขายทั่วไปสามารถลงทุนใน Crypto ETF ได้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้คนอเมริกันหลายล้านคนเข้าถึงคริปโตได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องมีความรู้เชิงเทคนิคมากนัก โดยนักลงทุนคลื่นลูกใหม่กำลังมองหาความมั่นคง ความเรียบง่าย และผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นจุดที่ XRP ทำผลได้โดดเด่น
แรงซื้อจากสถาบันทำให้ปริมาณ XRP บนกระดานเทรดคริปโตเริ่มลดลง ขณะที่ผู้ออก ETF ยังคงเร่งสะสมเพื่อรองรับเงินที่ไหลเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อน นักวิเคราะห์เตือนว่า หากความต้องการยังแรงต่อเนื่อง อาจเกิดภาวะ “Supply Shock” ได้ในระยะถัดไป
ในขณะที่รายงาน XRP มีการซื้อขายกันอยู่ที่ $2.04 ลดลง 1.7% ช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ที่มา:coinpedia