สำนักงานบัญชีกลาง (OCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารระดับชาติของสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อวันอังคาร (9 ธ.ค.) ว่าจะอนุญาตให้ธนาคารต่างๆ สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมคริปโตได้ ซึ่งถือเป็นก้าวย่างล่าสุดของรัฐบาลทรัมป์ในการลดช่องว่างระหว่างภาคการเงินดั้งเดิมและโลกของคริปโต
เปิดทางธนาคารเป็น ‘Broker’ แบบไร้ความเสี่ยง
OCC ได้ออกคำแนะนำใหม่ระบุว่า ธนาคารสามารถเข้าร่วมในสิ่งที่เรียกว่าธุรกรรมแบบ “Riskless Principal” (ตัวการไร้ความเสี่ยง) ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์คริปโตได้ โดยจะไม่ถูกเพ่งเล็งจากผู้กำกับดูแล
รูปแบบการทำงานคือ
- ธนาคารจะทำหน้าที่เป็นเสมือน “นายหน้า” (Broker)
- ธนาคารจะซื้อสินทรัพย์จากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็ทำสัญญาขายสินทรัพย์เหล่านั้นให้กับคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทันที
- ในกระบวนการนี้ ธนาคารจะ “ไม่ถือครอง” สินทรัพย์คริปโตใดๆ ไว้ในคลัง ยกเว้นในกรณีที่หายากจริงๆ
ยุคทองของคริปโตภายใต้ ‘ทรัมป์’
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ใช้วิธีการที่เปิดกว้างต่อภาคส่วนคริปโต โดยมีการเขียนกฎเกณฑ์ใหม่และรื้อถอนรั้วกั้นต่างๆ ออก ในขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ ก็ได้ยกเลิกข้อจำกัดจำนวนมากเกี่ยวกับกิจกรรมคริปโตของธนาคารที่เคยถูกตั้งขึ้นในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม OCC ก็เพิ่งอนุมัติกิจกรรมคริปโตบางอย่างให้กับธนาคาร และยกเลิกคำแนะนำเดิมที่เคยสั่งให้บริษัทต่างๆ ต้องขออนุมัติล่วงหน้าจากผู้ตรวจสอบก่อนจะกระโดดเข้าสู่ภาคส่วนนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์มองว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ภาคการเงินดั้งเดิมและโลกของคริปโตที่มีความผันผวนและถูกกำกับดูแลอย่างหลวมๆ นั้น “เชื่อมโยงกันมากขึ้น” ซึ่งอาจสร้างความเสี่ยงเชิงระบบได้ในอนาคต
ที่มา: reuters

