<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สถาบันแห่เก็บ Ethereum เร็วสุดในประวัติศาสตร์ ทะลุ 5.8 ล้าน ETH เมินราคาฟุบ หวังผลตอบแทน Staking

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

(11 ธ.ค. 2025) – ในขณะที่ราคา Ethereum (ETH) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง จนทำให้นักลงทุนรายย่อยเริ่มเกิดความลังเล แต่ข้อมูลเบื้องหลังกลับเปิดเผย “หนังคนละม้วน” เมื่อ Bull Theory สื่อวิเคราะห์คริปโทฯ ได้ออกมาตีแผ่ความจริงที่ว่า เหล่านักลงทุนสถาบันกำลังเร่งสะสม ETH ในอัตราที่ “เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” อย่างเงียบๆ

ภาพแนวโน้มการสะสม Ethereum ของกองทุน DAT

รายงานระบุว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025 นี้ กลุ่ม Digital Asset Treasuries (DATs) หรือบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นทุนสำรอง ได้กว้านซื้อ ETH เข้าพอร์ตไปแล้วรวมกว่า 5.1 ล้านเหรียญ ซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับสถิติจาก CoinGecko ณ เดือนธันวาคม 2025 ที่ยืนยันว่า ปัจจุบันมี Ethereum จำนวนมหาศาลถึง 5.86 ล้าน ETH ถูกถือครองอยู่ในมือขององค์กรขนาดใหญ่ 27 แห่ง

สถานะการถือครองของนักลงทุนสถาบันใน BMNR

ผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้คือ BitMine Immersion Technologies ซึ่งครองตำแหน่งผู้ถือครองรายใหญ่ที่สุดด้วยจำนวน 3.9 ล้าน ETH (คิดเป็นประมาณ 3.2% ของอุปทานทั้งหมด) ความเชื่อมั่นของสถาบันที่มีต่อ Ethereum ยังสะท้อนผ่านตลาดหุ้นอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจาก Nasdaq เผยว่ามีสถาบันการเงินถึง 359 แห่ง เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน BitMine ในขณะที่มีเพียง 4 แห่งเท่านั้นที่ลดสัดส่วนลง ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นโดยสถาบันพุ่งขึ้นแตะระดับ 23.5%

ปรากฏการณ์ “เก็บของเงียบ” นี้ ไม่ได้มีเพียง BitMine เท่านั้น แต่ยังรวมถึงยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง BlackRock และ Fidelity ที่เข้าร่วมวงไพบูลย์ด้วย โดยแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้ “Smart Money” เหล่านี้ทุ่มเงินมหาศาลเข้าซื้อ Ethereum แม้ในช่วงที่ราคาซึมเซา คือโอกาสในการสร้าง “ผลตอบแทนจากการ Staking” (Yield) ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ Bitcoin ไม่มี

การถือครอง ETH ของสถาบันการเงิน

แนวโน้มการล่าผลตอบแทนนี้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ BlackRock ได้ยื่นเอกสารขอจัดตั้งกองทุน Staked ETH ETFไปเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2025 ซึ่งถือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ทำให้สถาบันต่างๆ มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้แบบ Passive Income จากระบบนิเวศของ Ethereum ในระยะยาว สวนทางกับอารมณ์ของตลาดรายย่อยที่ยังคงสับสนกับทิศทางราคาในปัจจุบัน
ที่มา: @BullTheoryio