<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เชื่อหรือไม่? ปี 2025 นักซิ่ง Bitcoin ‘กำไร’ เกินครึ่งปี แม้ราคาจะร่วงหนัก-จับตาปี 2026 ฟ้าเปิด?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่ดูเหมือนจะซบเซาและการปรับฐานราคาที่รุนแรงถึง 30% ในปีนี้ แต่ข้อมูลเชิงลึกล่าสุดกลับเปิดเผยความจริงที่น่าประหลาดใจว่า ปี 2025 ไม่ใช่ปีที่เลวร้ายสำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้น (Short-term Holders หรือ STHs) อย่างที่คิด เพราะพวกเขาสามารถทำกำไรได้ถึง 66% ของตลอดทั้งปี หรือคิดเป็น 229 วัน จาก 345 วัน

ความจริงที่สวนทาง ราคาลบแต่พอร์ตบวก?

แม้ว่าผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ Bitcoin จะติดลบและราคายังคงดิ้นรนเพื่อยืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ แต่โครงสร้างภายในของตลาด กลับเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ความผันผวนในปี 2025 ถูกขับเคลื่อนด้วยพฤติกรรมของกลุ่มผู้ถือครองระยะสั้น (1-3 เดือน) ซึ่งราคา Bitcoin มักจะวิ่งกลับไปหา “ราคาต้นทุนเฉลี่ย” ของคนกลุ่มนี้อยู่เสมอ ทำให้เกิดคลื่นสลับกันระหว่างช่วงทำกำไรและช่วงขาดทุน

จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ระดับราคา 81,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่เป็น “ราคาต้นทุนทางจิตวิทยา” ของตลาด ในช่วงต้นปี Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้นานเกือบ 2 เดือน สร้างโอกาสทำกำไรระลอกแรก ก่อนที่จะร่วงลงในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดแดงเดือดที่สุดช่วงหนึ่งของปี แต่หลังจากนั้น ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนยาวไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม ตลาดกลับเข้าสู่โหมดฟื้นตัวและทำกำไรได้ยาวนานถึง 172 วัน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองที่สวนทางกับความรู้สึกของตลาดในภาพรวม

สัญญาณฟื้นตัว แรงขายเริ่มหมด-ลุ้นปี 2026

สถานการณ์ล่าสุดเริ่มส่งสัญญาณบวกอีกครั้ง เมื่อการดีดตัวของราคา Bitcoin กลับมาสู่ระดับ 92,500 ดอลลาร์ ได้ช่วยลดตัวเลขการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ของนักเก็งกำไรระยะสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่เคยติดลบหนักถึง -28% เหลือเพียง -12% ตัวเลขที่ลดลงนี้สะท้อนให้เห็นว่าแรงเทขายด้วยความตื่นตระหนก กำลังแผ่วลง และตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะที่ “อารมณ์นิ่งขึ้น”

นักวิเคราะห์มองว่า ตราบใดที่ Bitcoin ยังสามารถรักษาเสถียรภาพเหนือฐานราคาสำคัญที่ 81,000 ดอลลาร์ ได้อย่างมั่นคง การปรับฐานในช่วงปลายปีนี้อาจกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว และอาจเป็นการปูทางไปสู่ “เฟสการขยายตัว” รอบใหม่ในปี 2026 โดยเงินทุนก้อนใหม่และนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาในช่วงไม่กี่วันถึงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างก็เริ่มกลับมาอยู่ที่จุดคุ้มทุน ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างราคาในปัจจุบัน

ที่มา: cointelegraph