ตลาดคริปโตเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในวันศุกร์ หลังราคา Bitcoin และเหรียญหลักจำนวนมากร่วงลงมาราว 5–10% ท่ามกลางแรงเทขายในวงกว้าง
แม้ภาพดังกล่าวจะดูคุ้นตาในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แต่การร่วงลงรอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ หากแต่เป็นผลจากแรงกดดันด้านสภาพคล่องระดับโลกที่กลับมาตึงตัวอีกครั้ง
ปัจจัยสำคัญมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งกำลังกลายเป็นตัวแปรใหม่ที่กระทบตลาดการเงินทั่วโลก
สัญญาณดอกเบี้ยญี่ปุ่น ดึงสภาพคล่องออกจากตลาดเสี่ยง
ความเชื่อมั่นนักลงทุนเริ่มสั่นคลอน หลังมีรายงานว่า BOJ อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 18–19 ธันวาคม ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และกดดันตลาดการเงินในหลายภูมิภาค
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมากของญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งสภาพคล่องราคาถูกของโลก เงินทุนจำนวนมากถูกนำไปใช้ในกลยุทธ์ Carry trade และไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและคริปโต
อย่างไรก็ตาม เมื่อแนวโน้มนโยบายเริ่มเปลี่ยนไปสู่ความเข้มงวด สภาพคล่องดังกล่าวกำลังถูกดึงกลับ กองทุนต่างๆ ลดความเสี่ยง ปรับลด Laverage และเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตถูกกดดันพร้อมกัน โดยความผันผวนยิ่งรุนแรงขึ้นจากสภาพคล่องที่บางลงในช่วงปลายสัปดาห์
Bitcoin หลุดแนวรับสำคัญ เร่งแรงขายในตลาดอนุพันธ์
แรงเทขายในตลาดคริปโตทวีความรุนแรงขึ้น หลัง Bitcoin ไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 92,000 ดอลลาร์ได้ เมื่อระดับดังกล่าวถูกทะลุ การชำระบัญชีในตลาดอนุพันธ์ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาร่วงลงต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็นรูปแบบที่มักเกิดขึ้นในสภาวะตลาดที่สภาพคล่องต่ำ ซึ่งแรงขายที่ถูกบังคับสามารถขยายการเคลื่อนไหวของราคาให้รุนแรงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานจะอธิบายได้
ขณะนี้ตลาดกำลังจับตาแนวรับถัดไปบริเวณ 86,000 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนได้ มีความเสี่ยงที่ราคาจะถอยลงไปทดสอบจุดต่ำสุดก่อนหน้าแถว 78,000–80,000 ดอลลาร์ และในกรณีเลวร้าย Bitcoin อาจเห็นแรงกดดันลงไปใกล้ระดับ 74,000 ดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอาจเป็นโซนที่แรงซื้อระยะกลางเริ่มกลับเข้ามา
ความผันผวนยังไม่จบ จับตา BOJ และ Option รายไตรมาส
แรงกดดันเพิ่มเติมยังมาจากการหมดอายุของ Option คริปโตรายไตรมาสในวันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งตามสถิติแล้วมักนำมาซึ่งความผันผวนสูงและแรงกดดันขาลงก่อนที่ตลาดจะเริ่มทรงตัว
หาก BOJ ยืนยันการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดอาจเผชิญแรงเทขายระลอกสั้นแต่รุนแรงอีกครั้ง ในทางกลับกัน หากธนาคารกลางญี่ปุ่นเลือกชะลอการดำเนินนโยบาย สินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงคริปโตอาจเห็นการฟื้นตัวระยะสั้นจนถึงช่วงสิ้นปี
โดยภาพรวม การปรับฐานรอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า Bitcoin และตลาดคริปโตยังคงเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสภาวะการเงินโลก การร่วงลงไม่ได้เกิดจากปัจจัยเฉพาะของอุตสาหกรรมคริปโตโดยตรง แต่เป็นผลจากแรงกดดันเชิงมหภาคที่กำลังปรับสมดุลสภาพคล่องทั่วตลาด ตราบใดที่ความไม่แน่นอนด้านอัตราดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินยังคงอยู่ ความผันผวนในตลาดคริปโตมีแนวโน้มจะยังคงสูงต่อไป
Source: Coinpedia