สิ้นปี 2026 กำลังใกล้เข้ามาทุกที ท่ามกลางสภาพตลาดที่ Bitcoin ปรับฐานและเหรียญ Altcoin หลายตัวยังอาการร่อแร่ นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่นักลงทุนต้องหันกลับมา “จัดระเบียบพอร์ต” ครั้งใหญ่ ก่อนที่จะแบกความเสี่ยงข้ามปีโดยไม่จำเป็น หากเหรียญที่คุณถืออยู่มี 5 สัญญาณนี้ อาจถึงเวลาที่ต้องตัดใจ “ขายทิ้ง” เพื่อรักษาเงินต้นหรือใช้ประโยชน์ทางภาษี
1. นิ่งสนิทเหมือนชีพจรหยุดเต้น (แม้ BTC เคยพุ่งทำ ATH)
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดคือ “ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์” (Relative Strength) ตลอดปี 2025 ที่ผ่านมา Bitcoin ได้พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ไปแล้ว แต่หากเหรียญในมือคุณยังคงนอนนิ่งอยู่ก้นเหว หรือไม่สามารถทำราคาสูงสุดใหม่ได้ตามพี่ใหญ่
นี่คือสัญญาณว่า “เงินทุนไม่ไหลเข้า” ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ชัดว่าเงินทุนในปีนี้กระจุกตัวอยู่ที่ BTC เป็นหลัก หากเหรียญของคุณไม่วิ่งในปีที่ตลาดเป็นใจ ก็ยากที่จะมีความหวังในปี 2026
2. ขาดทุนยับ? ขายเพื่อลดภาษี คุ้มกว่า
ช่วงสิ้นปีคือนาทีทองของกลยุทธ์ “Tax-Loss Harvesting” หากคุณถือเหรียญที่ขาดทุนหนัก การขายทิ้งเพื่อรับรู้ผลขาดทุนอาจเป็นทางเลือกที่ฉลาดกว่าการถือรอความหวังลมๆ แล้งๆ เพราะคุณสามารถนำผลขาดทุนนี้ไปใช้ลดหย่อนภาระภาษีจากกำไรส่วนอื่นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกทำกันในช่วงสิ้นปี
3. หมดสตอรี่ ตกเทรนด์เหมือน NFT ยุคเก่า
โลกคริปโตหมุนเร็วมาก หากเหรียญที่คุณถือพึ่งพาแต่กระแสเก่าๆ ที่ตายไปแล้ว เช่น เหรียญ Meme ที่เลิกฮิต หรือ NFT ที่ไม่มีการใช้งานจริงให้พึงระวัง
ปี 2025 พิสูจน์แล้วว่าตลาด NFT เปลี่ยนทิศทางไปเน้นการใช้งานจริงและวัฒนธรรมชุมชน ของสะสมที่เก็งกำไรอย่างเดียวมูลค่าหายวูบไปกว่า 60% หากเหรียญของคุณไม่มี Roadmap ใหม่ที่จับต้องได้ ก็เท่ากับถือ “อากาศ”
4. เสี่ยงโดนแบน กฎหมายบีบจนไม่มีที่ยืน
ปี 2025 เป็นปีที่กฎระเบียบเข้มงวดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กรณีศึกษาล่าสุดคือ Bybit ที่ต้องถอยทัพจากญี่ปุ่นเพราะกฎหมาย FSA หากเหรียญที่คุณถือเป็นเหรียญ Privacy Coin หรือเหรียญที่มีความเสี่ยงด้านกฎหมายสูง (Security Token ที่ไม่ได้จดทะเบียน) และเริ่มถูกถอดออกจากกระดานเทรดใหญ่ๆ การรีบขายออกก่อนที่สภาพคล่องจะหายไปถาวรคือทางรอดเดียว
5. สภาพคล่องแห้งเหือด
ลองเช็ค Volume การซื้อขายดู หากพบว่าปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างต่อเนื่องจนแทบไม่มีคนเทรด นี่คือสัญญาณของ “Zombie Coin” หรือเหรียญซอมบี้ การถือต่อไปมีความเสี่ยงสูงมากที่จะ “ออกไม่ได้” เมื่อต้องการขาย ข้อมูลตลาดชี้ว่าช่วงสิ้นปีสภาพคล่องมักจะต่ำลงอยู่แล้ว และความเปราะบางของตลาดจะสูงขึ้น หากเกิด Panic Sell คุณอาจจะติดดอยถาวรแบบไม่มีคนมารับของต่อ

