(25 ธ.ค. 2025) – กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่สุดในโลกคริปโทฯ ประจำวันคริสต์มาส เมื่อชุมชนนักเทรดบน X (Twitter) ต้องตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ราคา Bitcoin บนกระดานเทรด Binance เกิดการทิ้งตัวลงอย่างรุนแรงแบบ “Flash Crash” ไปแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 24,111 ดอลลาร์ ภายในเสี้ยววินาที ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาที่ระดับปกติแถว 87,000 ดอลลาร์ทันที โดยบัญชีผู้ใช้งานชื่อ NoLimit (@NoLimitGains) ได้ออกมาโพสต์แฉพฤติกรรมดังกล่าว พร้อมระบุว่านี่คือ “การปั่นราคา” (Manipulation) ที่น่าเกลียดที่สุดในวันหยุด
จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นเฉพาะในคู่เทรด BTC/USD1 เท่านั้น ซึ่ง USD1 เป็น Stablecoin ที่มีความเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ World Liberty Financial และมีสภาพคล่อง (Liquidity) ต่ำกว่าคู่เทรดหลักอย่าง USDT หรือ FDUSD มาก ความโกลาหลเริ่มขึ้นเมื่อมีการตรวจสอบพบธุรกรรมจาก Hot Wallet ที่โอน Bitcoin จำนวนกว่า 150 BTC เข้ามาเทขายรวดเดียวในช่วงเวลาที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางที่สุดของวันหยุด ทำให้ Order Book ฝั่งรับซื้อรับไม่ไหว ราคาจึงไหลรูดลงไปกวาด Stop Loss ของนักเทรดรายย่อยจนพอร์ตระเบิดกันระนาว
แม้ผู้โพสต์ต้นเรื่องจะกล่าวหาว่า Binance มีเจตนาปล่อยให้เกิดเหตุการณ์นี้เพื่อกินรวบนักลงทุน แต่ข้อมูล On-chain บ่งชี้ว่านี่น่าจะเป็นผลพวงของ “Thin Trading” หรือสภาวะตลาดที่เปราะบางในช่วงเทศกาลมากกว่าการโกงโดยตรง เพราะในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ การเทขายของวาฬเพียงไม่กี่รายก็สามารถสร้าง “ไส้เทียนมรณะ” (Wick) ที่ยาวเหยียดได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดขึ้นซ้ำๆ ในช่วงวันหยุดยาว และมักเกิดกับคู่เหรียญทางเลือกที่มีคนเทรดน้อย
เหตุการณ์นี้ถือเป็นกรณีศึกษาคลาสสิกที่ตอกย้ำความเสี่ยงของการเทรดในคู่เหรียญที่มีวอลุ่มต่ำ (Illiquid Pairs) โดยเฉพาะสายฟิวเจอร์สที่เปิด Leverage สูงๆ เพราะแม้ราคาตลาดโลกจะไม่ขยับ แต่หากคู่เหรียญที่เราเทรดเกิดขาดสภาพคล่องชั่วขณะ ราคาอาจเหวี่ยงผิดปกติจนทำให้ถูกบังคับขาย (Liquidation) ได้อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งในกรณีนี้ นักเทรดที่ตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าราคาตลาดมากๆ ก็ยังไม่รอดพ้นจากหายนะครั้งนี้
ท้ายที่สุด แม้ราคาจะดีดกลับมาเป็นปกติแทบจะทันที และไม่กระทบต่อราคา Bitcoin ในภาพรวม แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับนักเทรดในคู่ BTC/USD1 นั้นเป็นของจริง และยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากทาง Binance ว่าจะมีการชดเชยความเสียหายนี้หรือไม่ หรือจะมองว่าเป็นความเสี่ยงตามกลไกตลาดที่นักลงทุนต้องยอมรับเอง
ที่มา: @NoLimitGains

