ปี 2025 คืออีกหนึ่งปีที่พิสูจน์ว่าโลกคริปโตไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ “พลังของมีม” ก็สามารถเขย่าตลาดได้ไม่แพ้กัน จากเหรียญที่เริ่มต้นด้วยมุกตลก รูปสัตว์ หรือกระแสไวรัลบนโซเชียล กลับพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นเหรียญมีมตัวตึงที่สร้างตำนาน ทำราคาพุ่งแรงแบบที่นักเทรดสายกราฟยังต้องอึ้ง บางเหรียญให้ผลตอบแทนระดับเปลี่ยนชีวิต ขณะที่บางเหรียญก็ทิ้งบทเรียนราคาแพงไว้เบื้องหลัง
ในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาไปส่อง 10 เหรียญมีมแห่งปี 2025 ที่กลายเป็นปรากฏการณ์ในวงการคริปโต มาดูกันว่าจะมีเหรียญไหนกันบ้าง
TRUMP และ MELANIA – จุดเริ่มต้นกระแสเหรียญมีมการเมือง

ที่มาภาพ : cryptoflies
เปิดปี 2025 ด้วยความฮือฮาจากการรุกเข้าสู่โลกคริปโตอย่างเต็มตัว ของครอบครัวทรัมป์ ที่เริ่มด้วยการเปิดตัวเหรียญ TRUMP บนเครือข่าย Solana เมื่อวันที่ 17 มกราคม เพียง 3 วัน ก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยมีการผลิตเหรียญ TRUMP ออกมาถึง 1 พันล้านเหรียญ และมีข้อมูลระบุว่า บริษัทในเครือของทรัมป์ถือครองเหรียญ TRUMP ไว้เองสูงถึง 800 ล้านเหรียญ
จากนั้นตามมาติด ๆ ด้วยการเปิดตัวเหรียญ MELANIA ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ มูลค่าตลาดพุ่งแตะ 2,000 ล้านดอลลาร์ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
การมาของทั้งสองเหรียญนี้ ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของกระแส “PolitiFi” หรือเหรียญมีมการเมือง ที่เน้นขายแบรนด์ และความเป็นบุคคลสำคัญ โดยไม่มีการใช้งานจริง (Utility) ใด ๆ รองรับ
ท้ายที่สุดเมื่อกระแสความเห่อจางลง ทั้งเหรียญมีม TRUMP และ MELANIA ต่างก็เผชิญกับแรงเทขายอย่างหนัก จนราคาช่วงสิ้นปีร่วงลงไปมากกว่า 99% จากจุดสูงสุด ทิ้งไว้เพียงบทเรียนเรื่องความผันผวนสุดขีดของเหรียญที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสเพียงอย่างเดียว
LIBRA – เหรียญมีมที่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวของประเทศ

ที่มาภาพ : cryptonews
เหตุการณ์เหรียญ LIBRA กลายเป็นหนึ่งในเรื่องอื้อฉาวที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี 2025 หรือที่เรียกกันว่า “Cryptogate” เมื่อประธานาธิบดี Javier Milei แห่งอาร์เจนตินา ใช้บัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวทวีตเชิญชวนให้ประชาชนเข้าซื้อเหรียญนี้ในวันวาเลนไทน์ ส่งผลให้ราคาเหรียญ LIBRA ทะยานขึ้นอย่างบ้าคลั่งจากแทบไม่มีมูลค่า จนไปแตะที่ $5.20 ดอลลาร์ได้ ภายในเวลาเพียง 40 นาที ทำให้มูลค่าตลาดพุ่งสูงถึง 4,600 ล้านดอลลาร์
แต่ความสุขของประชาชนก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ราคาเหรียญ LIBRA กลับร่วงดิ่งลงเหวถึง 85% เนื่องจากมีการตรวจพบว่า กลุ่มคนวงในได้เทขายเหรียญ LIBRA ออกไปถึง 70% ของปริมาณทั้งหมด
เหตุการณ์นี้รุนแรงถึงขั้นนำไปสู่คดีอาญา และการเรียกร้องให้ถอดถอนผู้นำประเทศจากตำแหน่ง ซึ่งปัจจุบันมูลค่าของ LIBRA ได้ล่มสลายลง โดยราคาติดลบไปกว่า 98.5% จากจุดสูงสุด
FARTCOIN – เหรียญมีมที่เกิดจากมุกของ AI จนกลายเป็นเหรียญมูลค่าพันล้าน

ที่มาภาพ : flipster
แม้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่เหรียญ FARTCOIN กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนความบ้าคลั่งของตลาดปี 2025 ได้ดีที่สุด โดยเหรียญนี้ไม่ได้เกิดจากนวัตกรรมล้ำสมัย แต่เกิดจากมุกตลกไร้สาระของ AI ที่ชื่อว่า Truth Terminal ที่มักจะปล่อยมุกเกี่ยวกับการ “ตด” ออกมาจนกลายเป็นกระแสไวรัล
แม้ตัวเหรียญ FARTCOIN จะไม่มีการใช้งานจริงใด ๆ นอกจากความขำขัน แต่กลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนมูลค่าพุ่งแตะระดับพันล้านดอลลาร์ และกลายเป็นตัวช่วยกู้สถานการณ์ความเชื่อมั่นของตลาดเหรียญมีมให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากวิกฤต LIBRA
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นวัฏจักรของเหรียญมีม โดยปัจจุบันราคา FARTCOIN ได้ร่วงลงมาแล้วกว่า 89.6% จากจุดสูงสุด
PUMP – เหรียญมีมของแพลตฟอร์ม Pump.fun

ที่มาภาพ : cryptoninjas
เหรียญ PUMP ของแพลตฟอร์ม Pump.fun กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในแง่ของความย้อนแย้ง
โดยแพลตฟอร์มนี้โด่งดังจากการเป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ใครก็ได้เข้ามาสร้างเหรียญมีมได้อย่างอิสระ แต่เมื่อถึงคราวที่ตัวเองจะออกเหรียญ PUMP กลับเลือกใช้วิธีการระดมทุน ( ICO) แบบปิด ซึ่งจำกัดเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ (Accredited Investor) เท่านั้น
โดยสามารถระดมทุนไปได้เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเหรียญนี้คือ การวางเดิมพันกับความสำเร็จของ “คาสิโนเหรียญมีม” ทั้งระบบ แต่สุดท้ายความเชื่อมั่นก็พังทลายลง เมื่อราคาเหรียญ PUMP ร่วงดิ่งลงถึง 81% จากจุดสูงสุด ทิ้งให้นักลงทุนรายย่อยมองว่า เป็นเพียงเครื่องมือทำเงินให้เจ้าของแพลตฟอร์มมากกว่าจะเป็นเหรียญเพื่อชุมชนจริงๆ
YZY – บทเรียนราคาแพงจากเหรียญมีมคนดังของ Kanye West

ที่มาภาพ : namecoinnews
เหรียญ YZY หรือ “Yeezy Money” ของแรปเปอร์ชื่อดัง Kanye West (Ye) กลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดของวงการเหรียญเซเลบในปี 2025 โดยเหรียญเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พร้อมสโลแกนสุดหรูว่า “A NEW ECONOMY” หรือเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดตัว มูลค่าตลาด (Market Cap) พุ่งทะยานไปแตะระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์อย่างรวดเร็ว แต่ความมั่งคั่งนั้นกลับพังทลายลงในชั่วพริบตา
เมื่อราคาดิ่งลงกว่า 60% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจากการตรวจสอบข้อมูลบนบล็อกเชนพบว่า มีกลุ่มกระเป๋าเงินของคนวงใน (Insiders) ทำการเทขายเหรียญใส่แฟนคลับที่กำลังแห่ซื้อตามกระแสอย่างไม่ปราณี
โดยมีรายงานว่า กระเป๋าเงินเพียงไม่กี่ใบ ได้โกยกำไรไปรวมกว่า 24 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยกว่า 50,000 ราย ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก
ปัจจุบันราคาเหรียญ YZY ร่วงลงจากจุดสูงสุดถึง 87.6% ตอกย้ำภาพลักษณ์ของเหรียญคนดัง ที่เน้นการปั่นกระแสมากกว่าการสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ตามที่กล่าวอ้าง
DOGE เข้าสู่ยุคกองทุน ETF อย่างเป็นทางการ

ที่มาภาพ : tokenmetrics
ปี 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ของเหรียญมีม เมื่อ Dogecoin (DOGE) ได้ยกระดับตัวเอง เข้าสู่โลกการเงินกระแสหลักอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัวกองทุน DOGE ETF เมื่อเดือนกันยายน
ตามมาด้วยกองทุน GDOG ของยักษ์ใหญ่อย่าง Grayscale ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE Arca) เหตุการณ์นี้ทำให้ Dogecoin กลายเป็นเหรียญมีมตัวแรกของโลก ที่ได้รับการยอมรับในระดับกองทุนอย่างเต็มรูปแบบ
ซึ่งในสายตาของนักลงทุนมองว่า เป็น “ความสำเร็จสูงสุด” ที่เหรียญมีมตลก ๆ สามารถไปได้ไกลขนาดนี้
Four – เหรียญมีมที่ร้อนแรงจากเครือข่าย BNB Chain

ที่มาภาพ : coinrank
เหรียญมีม Four จาก Four.meme ที่เปิดตัวในฐานะแพลตฟอร์มปล่อยเหรียญใหม่ (Launchpad) ที่ร้อนแรงที่สุดบนเครือข่าย BNB Chain ของ Binance ในปี 2025 โดยมีเหรียญชูมือ 4 นิ้วเป็นสัญลักษณ์หลักของระบบ ซึ่งในช่วงแรกได้รับแรงสนับสนุนอย่างมหาศาลจากการที่ Binance ออกตัวโปรโมตให้ด้วยตัวเอง จนนักลงทุนต่างคาดหวังว่า จะเป็นโปรเจกต์ดาวรุ่งตัวใหม่ของเครือข่าย แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นชะตากรรมเดียวกับเหรียญมีมตัวอื่นๆ
เมื่อกระแสจางหายไปประกอบกับสภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ราคาเหรียญ Four.meme ร่วงดิ่งลงถึง 92.8% จากจุดสูงสุด ทิ้งไว้เพียงบทเรียนว่า แม้แต่โปรเจกต์ที่ได้รับการการันตีจากเว็บเทรดยักษ์ใหญ่ ก็สามารถล้มเหลวได้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้
MOTHER – เหรียญมีมของแรปเปอร์สาว ที่เคยล้มเหลวแต่กลับสร้างโปรไฟล์ให้เจ้าของ

ที่มาภาพ : x
เหรียญ MOTHER ของแรปเปอร์สาว Iggy Azalea กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุดของปีนี้ครับ แม้ว่าราคาเหรียญจะล้มเหลวไม่เป็นท่า มาตั้งแต่ปี 2024 จนทำให้นักลงทุนพากันขาดทุนย่อยยับ และติดดอยกันเป็นแถว
แต่เธอกลับสามารถเปลี่ยนความพังนั้นให้เป็นโอกาส โดยใช้กระแสความดังจากการทำเหรียญมีม มาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญวงการคริปโต จนได้รับตำแหน่งเป็น Creative Director ของแพลตฟอร์ม “Thrust” ซึ่งเป็น Launchpad เปิดตัวเหรียญตัวใหม่ กลายเป็นว่า ในขณะที่คนซื้อเหรียญเจ๊งเหมือนเดิม แต่เจ้าของเหรียญกลับได้โปรไฟล์งานใหม่ที่มั่นคงขึ้นกว่าเดิมเสียอย่างนั้น
PIPPIN – เหรียญกลับมาเกิดใหม่ ที่ถูกควบคุมโดยคนไม่กี่คน

ที่มาภาพ : investx
เหรียญ PIPPIN กลายเป็นกรณีศึกษาของการปั่นราคาแบบเป็นขบวนการ ในช่วงปลายปี 2025 ครับ โดยในช่วงต้นเดือนธันวาคม ราคาเหรียญ PIPPIN ดีดตัวพุ่งสูงขึ้นถึง 400% จนถูกยกให้เป็นเหรียญที่กลับมาเกิดใหม่ (Comeback) ได้อย่างร้อนแรง
แต่จากการตรวจสอบข้อมูลบนบล็อกเชน (On-chain) กลับพบความจริงที่น่ากลัวว่า มีกระเป๋าเงินเพียงไม่กี่สิบใบเท่านั้น ที่ถือครองเหรียญ PIPPIN ไว้รวมกันกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่าการพุ่งขึ้นของราคานั้นไม่ใช่กระแสตามธรรมชาติ แต่เป็นการปั่นราคาอย่างเป็นระบบ โดยกลุ่มคนเพียงกำมือเดียว และเหตุผลที่ราคา PIPPIN ตอนนี้ร่วงลงเพียง 12% จากจุดสูงสุด ก็เป็นเพราะกลุ่มผู้ควบคุมเหล่านี้ ยังคงถือเหรียญเอาไว้เพื่อคุมทิศทางตลาดอยู่นั่นเอง
ที่มา : cryptoslate

