ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเริ่มต้นวันทำการในสหรัฐอเมริกาด้วยการฟื้นตัวเล็กน้อย โดยราคา Bitcoin (BTC) สามารถดีดตัวกลับมายืนเหนือระดับ 89,000 ดอลลาร์สหรัฐได้สำเร็จ หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับ 87,000 ดอลลาร์เมื่อวันก่อนหน้า
การปรับตัวขึ้นในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายของสหรัฐฯ ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากตลอดเดือนที่ผ่านมา ราคา Bitcoin มักจะปรับตัวลดลงเกือบทุกวันในช่วงเวลาทำการของตลาดฝั่งอเมริกา โดยข้อมูลจาก Velo ระบุว่าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา Bitcoin มีมูลค่าลดลงสะสมถึงประมาณ 20% ในช่วงเวลาดังกล่าว
สัญญาณ Short-Covering ราคาขึ้นแต่ OI ลด
แม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น แต่ข้อมูลเชิงลึกกลับชี้ว่านี่อาจไม่ใช่สัญญาณของกระทิงรอบใหม่ที่เกิดจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ (Fresh Longs) ข้อมูลจาก Coinglass แสดงให้เห็นว่าปริมาณสถานะคงค้าง (Open Interest) ของ Bitcoin ในหน่วย BTC ได้ปรับตัวลดลงหลังจากตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการ โดยลดจาก 514,000 BTC เหลือ 511,000 BTC
การที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับ Open Interest ที่ลดลงเช่นนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ทางเทคนิคว่าการดีดตัวของราคาเกิดจากการที่นักลงทุนฝั่งขาย ตัดสินใจปิดสถานะเพื่อทำกำไรหรือตัดขาดทุน มากกว่าที่จะเกิดจากการเปิดสถานะซื้อ (Long) ด้วยเลเวอเรจรอบใหม่ ขณะที่หุ้นในกลุ่มคริปโตอย่าง Coinbase, Robinhood และ Circle รวมถึงดัชนีหลักอย่าง S&P 500 และ Nasdaq ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
พิษแรงเทขายส่งท้ายปีและเม็ดเงินไหลออก ETF ต่อเนื่อง
Jasper de Mare นักกลยุทธ์จาก Wintermute วิเคราะห์ว่า ตลาดยังคงถูกกดดันจากปัจจัยลบหลายประการ ทั้งการลดความเสี่ยงก่อนสิ้นปี, สภาพคล่องที่เบาบางในช่วงวันหยุด และกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากกองทุน ETF อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กองทุน Spot Bitcoin ETF มียอดเงินไหลออกสุทธิ 19.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการไถ่ถอนหน่วยลงทุนติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แล้ว เฉพาะในช่วงกลางเดือนธันวาคมเพียงช่วงเดียว มีเงินทุนไหลออกจากกองทุน Bitcoin รวมกว่า 1.29 พันล้านดอลลาร์ โดยมีกองทุน IBIT ของ BlackRock เป็นผู้นำการไหลออกสูงสุดในวันเดียวที่ 157 ล้านดอลลาร์
สาเหตุหลักคาดว่ามาจากการขายเพื่อนำผลขาดทุนไปลดหย่อนภาษี (Tax-loss harvesting) ในขณะที่ Altcoins ซึ่งอยู่นอกกฎ Wash-sale ของกรมสรรพากรสหรัฐฯ (IRS) กลับไม่เผชิญแรงเทขายในลักษณะเดียวกัน
จับตาความผันผวนหลังวันหมดอายุสัญญาครั้งประวัติศาสตร์
ในฝั่งของตลาดอนุพันธ์ ข้อมูลจาก Deribit เผยว่าเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการหมดอายุของสัญญาออปชัน BTC และ ETH รวมมูลค่ากว่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์คริปโต อัตรา Funding Rate และ Open Interest ซึ่งเคยพุ่งสูงสุดที่ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ได้ทยอยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
นอกจากนี้ ค่าความผันผวนที่เกิดขึ้นจริง ในรอบ 7 วันของ BTC ซึ่งลดลงอย่างมากในช่วงคริสต์มาส เริ่มกลับมาดีดตัวสูงขึ้นอีกครั้งจากการแกว่งตัวระหว่างวันที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม De Mare แนะนำให้นักเทรดหลีกเลี่ยงการเชื่อสัญญาณระยะสั้นมากเกินไป จนกว่ากระแสเงินทุนจากสถาบันจะกลับเข้ามาเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือนมกราคม
ที่มา: coindesk

