สำหรับประเด็นฮืฮฮาบนโซเซียลในวันนี้ ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของพาดหัวข่าวใหญ่ที่โรงรับจำนำ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า “เศรษฐกิจนั้นเริ่มฟื้นตัว เพราะคนแห่จำนำข้าวของกันมากขึ้น” อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากชาวเน็ตจะทึ่งในเรื่องของข้อมูลนี้แล้ว พวกเขายังตั้งคำถามกันด้วยว่า “เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวกันได้อย่างไร เพราะมีผู้คนแห่จำนำข้าวของกัน” ?
อย่างไรก็ดีประเด็นพาดหัวข่าวใหญ่ในวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก ข้อมูลจากโรงจำนำเอกชนได้มีการเปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีได้แห่จำนำทรัพย์สินเพื่อนำมาลงทุน ส่วนวัยรุ่นก็ได้จำนำสินค้าแบรนด์เนมเพื่อมาลงทุนกับคริปโต
ด้านนายสิทธิวิชญ์ ตั้งธนาเกียรติ กรรมการผู้จัดการบริษัท ตั้งธนสิน ผู้ให้บริการโรงรับจำนำ อีซี่มันนี่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โรงรับจำนำคึกคักมาก มีลูกค้าเข้าไปไถ่ถอนทรัพย์สิน กลุ่มทองคำและเครื่องประดับ กลับไปใส่เพื่อกลับภูมิลำเนา เพิ่มขึ้นถึง 14% สะท้อนเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่พอหลังจากเสร็จสิ้นเทศกาลสงกรานต์ ก็เอากลับมาจำนำเหมือนเดิม
ในขณะเดียวกันด้าน โรงรับจำนำก็กำลังกลายเป็นเหมือนแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ในพื้นที่ภูเก็ต พัทยา สมุย และเชียงใหม่ ที่นำทรัพย์สิน พวกทองคำ เพชร นาฬิกาแบรนด์เนม ไปจำนำกันจำนวนมาก โดยพบว่าเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ในขณะที่กลุ่มวัยรุ่น เริ่มเข้าไปใช้บริการโรงจำนำกันมากขึ้น และมีการนำสินค้าแบรนด์เนม ไปจำนำ เพื่อนำเงินไปลงทุนในคริปโต พบวงเงินตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท
นอกจากนี้โรงจำนำยังได้กลายเป็นสถานที่รับฝากของจากลูกค้า ในช่วงโควิด และสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าแวะเวียนกันมาจำนำทรัพย์สินแบรนด์เนม เครื่องเพชร ทอง แต่เป็นที่สังเกตว่า พวกเขากลับรับเงินไปเพียงแค่หลักพันบาทเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ทรัพย์สินมีมูลค่าหลักแสนหลักล้าน โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการฝากของ เพราะกลัวว่า หากเกิดติดโควิด จะไม่มีใครดูแลทรัพย์สินให้นั่นเอง
ที่มารูปภาพ : ลิงก์