<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สหราชอาณาจักรตัดสินใจยกเลิกข้อกำหนด KYC สำหรับผู้ใช้กระเป๋าเงินส่วนตัวแล้ว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักร (UK Treasury) ตัดสินใจที่จะยกเลิกข้อกำหนดบริษัท crypto ในการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้กระเป๋าเงินที่ดูแลด้วยตนเอง (non-custodial wallets) โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว

สหราชอาณาจักรจะไม่กำหนดให้ธุรกิจคริปโตต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการโอนเงินทั้งหมดไปยังกระเป๋าเงินที่ดูแลด้วยตนเองอีกต่อไป

ตามรายงานในเดือนมิถุนายนกระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักรยอมรับว่า  “บุคคลจำนวนมากที่ถือครอง cryptoassets เพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายใช้กระเป๋าเงินในรูปแบบ non-custodial wallets” ไม่มี “หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าเงินดังกล่าวถูกใช้อย่างไม่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมทางอาญา ดังนั้นแทนที่จะต้องรวบรวมข้อมูลทั้งหมดสำหรับผู้รับและผู้โอนกระเป๋าเงินแบบ non-custodial wallets ธุรกิจ cryptoasset จะถูกคาดหวังให้รวบรวมข้อมูลสำหรับธุรกรรมที่ระบุว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการเงินที่ผิดกฎหมายเท่านั้น

การตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลมาจากข้อเสนอแนะที่กระทรวงการคลังได้รับจากการปรึกษาหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล ผู้นำในอุตสาหกรรม นักวิชาการ ภาคประชาสังคม และหน่วยงานของรัฐในเรื่องการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการฟอกเงิน โดยอ้างถึงข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฏาคม กระทรวงการคลังแห่งสหราชอาณาจักรได้ออกเอกสารให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งระบุว่ามาตรฐานทางการเงินควรสอดคล้องกันในทุกบริการทางการเงิน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลด้วย ซึ่งนั้นหมายความว่าทั้งผู้ส่งและผู้รับเงินคริปโตในกระเป๋าเงินแบบ non-custodial wallets จะต้องได้รับการยืนยันตัวตนโดยบริษัท crypto 

สิ่งนี้อ้างถึงการปฏิบัติตามมาตรฐานของ Financial Action Task Force (FATF) ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การป้องกันการฟอกเงินและการระดมทุนของกิจกรรมการก่อการร้ายที่กำหนดให้ระบุผู้ส่งและผู้รับเงินอย่างเหมาะสม

การปรับลดมาตรการดังกล่าวเป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับเรื่องความเป็นส่วนตัว ความเป็นไปได้ และต้นทุนระยะสั้นและระยะยาว โดยนักวิชาการบางคนแนะนำให้ใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof แทนเพื่อ “การตรวจสอบวิเคราะห์และสถานะของผู้ใช้งาน” ในขณะที่หลีกเลี่ยงการแชร์ข้อมูลส่วนตัว

ที่มา : cryptobriefing