<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดร. นิเวศน์ชี้ ! นโยบายแจกเงิน ทำไทยเสี่ยงล้มละลาย เหมือนเวเนซุเอลา

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า “นโยบายแจกเงิน” เป็นนโยบายทางการเมืองของพรรคต่างๆ ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง จากนโยบายดังกล่าว ทำให้ประชาชนแห่กันมาเลือกพรรคเหล่านี้เพราะประชาชนได้ผลประโยชน์  แต่เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า ทำไมนโยบายแจกเงิน สามารถทำไทยเสี่ยงล้มละลายได้เช่นเดียวกับเวเนซุเอลา ?

เพื่อให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิทยากรและที่ปรึกษาการลงทุนที่มีชื่อเสียง ได้ร่วมเป็นแขกรับเชิญในช่อง Money Chat Thailand ในคลิปที่มีชื่อตอนว่า “นโยบายแจกเงิน ไทยเสี่ยงล้มละลาย เหมือนเวเนซุเอลา” ซึ่งในคลิปนี้ ดร.นิเวศน์ได้อธิบายถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายแจกเงิน

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  กล่าวว่า “ประเทศไทยถึงจุดอิ่มตัว โตช้า ไม่มีช่องทางหากิน นักธุรกิจมีเงินลงทุนก็มักจะมาลงทุนในหุ้น เนื่องจากธุรกิจเล็กไม่โต ลงทุนในหุ้นแปปเดียวอย่างน้อยก็ยังพอได้กำไร ” 

ต่อมา พอหุ้นต่างประเทศเริ่มเปิดไม่นาน  ก็เล่นแบบเก็งกำไรไม่ได้ เพราะเราไม่มีความรู้ ไม่มีข่าวแต่ประเทศไทยยังมีการเก็งกำไร นักลงทุนบางส่วนเล่นแล้วได้เงิน แต่ช่วงหลังๆ ก็เก็งกำไรไม่ขึ้น ก็เสียหายหนัก หากอยู่ประเทศไทยให้ระวัง เพราะตลาดหุ้นหนัก ตลาดหุ้นเป็นภาพสะท้อนเศรษฐกิจ ถ้าประเทศไทยแย่ลง อีกหน่อยคนก็จะจนลง ไม่รวย 

แต่ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  ไม่ได้คิดแค่เรื่องตลาดหุ้น ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  กล่าวถึงนโยบายแจกเงินว่า นโยบายนี้นำประเทศสู่เหว นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ เพราะค่าใช้จ่ายที่ให้ไปแล้ว ไม่สามารถเอาคืนได้ ถ้าคุณเคยให้แล้วไม่ให้อีก พรรคการเมืองของคุณจะไม่ได้รับการเลือก มีแต่นโยบายที่บอกจะเพิ่มเงินให้เพราะต้องการให้ประชาชนมาเลือก

กรณีนี้เหมือนกับเวเนซูเอล่า  เพราะ เวเนซูเอล่า เคยรวยเหมือนประเทศไทยมาก่อน แต่มีเรื่องการเมืองเข้ามาทำลาย พรรคการเมืองต่างเข้ามาเสนอนโยบาย แจกเงินฟรี
เช่น นโยบายที่แจกเงินฟรีคนอายุ 60 ได้รับเงิน 3 พันบาท ทุกปีมีคนอายุแก่ขึ้นมาอายุ 60  จำนวนล้านคน ลองคำนวณ สามพันบาทต่อคน ว่าตกเดือนละสามพันล้าน ปีละสามหมื่นหกพันล้าน นี่แค่เฉพาะรุ่นเดียวนะ จากแปดล้านคน อนาคตคนแก่เพิ่มขึ้นเป็น ยี่สิบล้านคน ปีละ สามหมื่นหกพันล้าน ทบขึ้นไปเรื่อยๆ 

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร  ยอมรับว่าตกใจกับ แนวคิดและแผนของประเทศไทยที่ว่า ต่อไปงบประมาณประเทศไทยไม่ต้องลงทุน  ไม่ใช่นักลงทุนแต่ต้องลงทุน ซึ่งตามตัวเลขลงทุนไม่ได้ เพราะงบประมาณส่วนใหญ่ต้องแจกเข้าไปเป็นสวัสดิการ เนื่องจากมีรัฐธรรมนูญฉบับแปลกๆ ปี 60 มีเรื่องพิเศษข้อหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลต้องมีงบประมาณลงทุนทุกปีอย่างน้อย 20 % 

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร มองว่ารัฐธรรมนูฐข้อทำให้นี้เดือดร้อน เพราะรัฐบาลไม่ได้ต้องการลงทุน แต่ต้องการเอาเงินมาสร้างสวัสดิการแทน  วิธีแก้คือให้ลงทุนในบุคคลากร ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งงบประมาณปีละแสนล้าน อันนี้คือลงทุนแล้ว ส่วนอื่นไม่ต้องลงทุนแล้วเพราะลงทุนได้แค่ 20% หากจะบอกนี่คืองบลงทุน แล้วแบบนี้ประเทศจะเจริญได้ไง ทำให้ประเทศไม่เจริญ

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กล่าวว่า เศรษฐกิจจะโตได้ต้องลงทุน อยู่ๆไม่ลงทุน เศรษฐกิจไม่โต จะลงทุนในเอกชน หรือลงทุนรัฐบาลก็ตาม  ถึงจะทำให้เศรษฐกิจโต ก่อนหน้านี้รัฐบาลไม่ได้บอกว่าจะเลิกลงทุน แล้วเอาเงินไปสนับสนุนสวัสดิการ เพิ่งมามีตอนเลือกตั้งเสร็จ มีประกาศออกมา ว่าต้องมีเก็บภาษีอะไรบ้าง ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ยอมรับว่าตกใจมาก ก่อนเลือกไม่เคยบอก พอหลังเลือกตั้งมาพูด 


ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร แนะนำว่า อย่าไปเก็บภาษีการลงทุน เพราะถ้าไปเก็บมันจะทำให้การลงทุนไม่เกิด ให้ไปเก็บภาษีบริโภค เพิ่ม vat  ไป ไม่กระทบการลงทุน แต่เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นหน่อย ส่งผลให้ประชาชนอาจจะบริโภคน้อยลง แต่อย่างน้อยการลงทุนมันไม่ตาย BOI ไม่เอาแล้ว เพราะอยู่ ๆ ก็ยกเว้นภาษีให้เขา ทำไมต้องยกเว้นภาษีให้คนต่างชาติ ไม่ยุติธรรมกับธุรกิจอื่นที่เขาเสียภาษี  ถ้าไม่ยกเว้นภาษีให้ต่างชาติ ต่างชาติก็ไม่มา เพราะเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งการลงทุนต่างชาติด้วย   


สุดท้ายนี้สำหรับนโยบายการแจกเงิน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กลัวว่า รัฐบาลจ่ายเงินไปปีแรก อาจไม่เป็นไรจ่ายได้สบายเพราะมีเยอะ แต่พอปีถัดไปจะเริ่มถดถอย ดำดิ่งลงเรื่อยๆ ส่วนเรื่องกรณีคนแก่คิดว่า หากคนรุ่นใหม่เริ่มลดลง มีคนแก่เพิ่มขึ้น แล้วถ้ารัฐบาลจะไปเลี้ยงประชาชน นโยบายตัดเงินคนรวยเอามาให้คนจน บางทีไม่จนจริงๆก็ให้ เพราะกลัวไม่ได้คะแนนเสียง  ต้องแจกเงินอย่างเดียว แบบนี้ก็จบเกม