นักเทรดนามแฝงซึ่งใช้ชื่อ aka ว่า “Bonk guy” ได้แชร์เทคนิคเกี่ยวกับการเทรดเหรียญ Bonk ของเขา ที่สามารถเปลี่ยนจากเงิน 16,000 ดอลลาร์ ให้เป็นกำไรมากถึง 12.7 ล้านดอลลาร์
นักเทรดรายนี้กลายเป็นที่รู้จักใน “ชุมชนคริปโตทวิตเตอร์ (Crypto Twitter)” เมื่อช่วงปลายปี 2023 ด้วยการเปิด Long Position ในเหรียญ Bonk ตั้งแต่ตอนที่มูลค่าตลาดของเหรียญมีมนี้อยู่ที่เพียง 20 ล้านดอลลาร์
หลังจากนั้น มูลค่าตลาดของเหรียญ Bonk ก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าของ “Long Position” ที่ “Bonk guy” เปิดไว้ มีมูลค่าสูงสุดถึง 12.7 ล้านดอลลาร์
ต่อมามูลค่าของเหรียญ Bonk กลับร่วงลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้ “Bonk guy” สูญเสียกำไรที่ยังไม่ได้ขายไปหลายล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้จุดกระแสการถกเถียงบนโซเชียลมีเดียอย่างดุเดือด จนนำไปสู่การระงับบัญชีของเขา
หลังจากราคาเหรียญ Bonk ฟื้นตัว “Bonk guy” ได้โพสต์อัปเดตเกี่ยวกับผลกำไรและการขาดทุนของเขา ซึ่งเป็นภาพแคปหน้าจอที่แสดงให้เห็นว่า เขาเหลือเงินทุน 3 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรที่ยังไม่ได้ขายอีกมากกว่า 7.4 ล้านดอลลาร์
“Bonk guy” ไม่มีทีท่าที่ว่าจะอยากขายเหรียญแต่อย่างใด โดยเขากล่าวว่า “นี่เพิ่งเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น” เหตุผลของเขาคือ “มีเหรียญมีมเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ที่สามารถเสนอซื้อขายบน Coinbase ได้คือ เหรียญ BONK”
กรณีของ “Bonk guy” เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ เรื่องราวความผันผวนในตลาดคริปโต
ในขณะที่มีนักเทรดบางคน ตัวอย่างเช่น คนที่ทำกำไรได้ 10,800 ดอลลาร์ จากการลงทุนด้วยเงินลงทุน 51 ดอลลาร์ ในเหรียญมีม Nvidia หรืออีกคนที่ทำกำไรได้ 1.8 ล้านดอลลาร์จากเหรียญ Dogwifhat ถือเป็นการตัดสินใจขายเหรียญเพื่อนำกำไรออกมา แต่ก็มีนักเทรดอีกหลายคนที่ยังคงยึดมั่นในหลักการถือเหรียญระยะยาว ซึ่งนักลงทุนคริปโตเคอเรนซีเหล่านี้ถูกเรียกว่า “diamond hands”
อีกหนึ่งตัวอย่างของแนวคิดนี้ คือ นักเทรดที่เปลี่ยนเงินลงทุนจาก 2,708 ดอลลาร์ ให้กลายเป็นเงิน 3 ล้านดอลลาร์ ด้วยการลงทุนในเหรียญมีม MAGA โดยมีความเชื่อมั่นว่าเหรียญนี้จะพุ่งทะยานไปแตะมูลค่า “หลายพันล้านดอลลาร์”
Bonk ซึ่งถือเป็นเหรียญคู่ปรับของ Dogecoin และ Shiba Inu บนเครือข่าย Solana อาจกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนรายย่อยได้อย่างแน่นอน หากตลาดคริปโตยังคงมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเหรียญมีมอื่น ๆ ที่กระแสความนิยมบนโซเชียลมีเดียสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นนักลงทุนควรต้องเตรียมพร้อมรับมืออยู่ตลอดเวลา
ที่มา : benzinga Crypto