ราคา Bitcoin พุ่งทะยานแตะระดับสูงสุดเหนือ 69,000 ดอลลาร์ แต่ก็ร่วงลงอย่างรุนแรงในวันอังคาร (5 มี.ค. 67) ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับอย่างรวดเร็วไปแตะระดับ 67,000 ดอลลาร์ ในวันถัดมา (6 มี.ค. 67) ด้านบริษัทวิเคราะห์ Crypto อย่าง Swissblock มองว่าการฟื้นตัวนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกครั้ง
นักวิเคราะห์จาก Swissblock ชี้ว่า การร่วงลงของราคา Bitcoin นั้นนเป็นตัวช่วยยืนยันแนวรับสำคัญที่ระดับ 59,000-62,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงราคาที่ Bitcoin เคยทรงตัวอยู่เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
“การฟื้นตัวแบบรวดเร็ว และเตรียมมุ่งสู่จุดสูงสุดใหม่” Swissblock กล่าวผ่านการอัพเดทข้อมูลบน Telegram ในวันพุธ
ตามกราฟที่ Swissblock แชร์ไว้ การที่ราคา Bitcoin สามารถกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 62,000 ดอลลาร์ ได้อย่างรวดเร็วนั้น เป็นสัญญาณเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ระดับ 76,000 ดอลลาร์
บริษัท QCP Capital ซึ่งเป็นบริษัทเทรด Crypto ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ก็คาดการณ์เช่นเดียวกันว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นอีกในเร็วๆ นี้
“การฟื้นตัว นั้นน่าประทับใจอย่างมาก” นักวิเคราะห์จาก QCP กล่าวในรายงานการตลาดประจำวันพุธ “ราคาที่ลดลงนั้นถูกซื้อกลับอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยระดับ 60,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง”
“ด้วยการที่เลเวอเรจบางส่วนถูกตัดออก ทำให้เส้นทางการปรับตัวขึ้นในตอนนี้จึงเปิดกว้างขึ้น และเรามองเห็นโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นในระยะใกล้ ขณะที่แนวโน้มขาขึ้นกลับมาดำเนินต่อไปอีกครั้ง” QCP เสริม
กองทุน Bitcoin spot ETF ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้รับเงินลงทุนจำนวนมากในช่วงที่ราคา Bitcoin ร่วงลงในวันอังคาร ซึ่งบ่งบอกว่านักลงทุน ETF ไม่ได้ตื่นตระหนกกับการร่วงลงของราคาดังกล่าว และยังคงเข้าซื้อ
นอกจากนี้ข้อมูลที่รวบรวมโดย BitMEX Research ชี้ว่า กองทุน ETF ทั้ง 10 กองทุนที่เพิ่งเปิดตัวนั้น ได้รับเงินลงทุนสุทธิรวม 648 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นยอดเงินลงทุนรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันเปิดตัวในวันที่ 11 มกราคม กองทุน iShares Bitcoin ETF (IBIT) ของ BlackRock ทำลายสถิติรายวัน โดยได้รับเงินลงทุนใหม่มูลค่า 788 ล้านดอลลาร์ และมี Bitcoin เพิ่มขึ้น 12,600 BTC ในกองทุน
ที่มา: coindesk