ในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐสภาไทยได้ลงมติให้นาย เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยเขานั้นเป็นที่รู้จักในฐานะอดีต CEO ของแสนสิริ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งได้มีการใช้คริปโตอีกด้วย เรามาดูกันว่าเขาคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอุตสาหกรรมคริปโตบ้าง
โดยนายเศรษฐา เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ที่ได้คะแนนโหวดในการเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาไปกว่า 482 เสียงจากทั้งหมด 747 เสียง
และชัยชนะของเขาในครั้งนี้ อาจจะทำให้อุตสาหกรรมคริปโตในไทยเปลี่ยนแปลงไป สาเหตุมาจากการที่บริษัทแสนสิรินั้นเป็นบริษัทที่ได้มีการลงทุนในอุตสาหกรรมคริปโต ในสมัยที่นายเศรษฐา ยังเป็น CEO ของแสนสิริอยู่ ก่อนที่จะลาออกและเข้ามาในวงการการเมืองในฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี
โดยในปี 2021 แสนสิริได้มีส่วนร่วมในการระดมทุนกว่า 225 ล้านดอลลาร์ กับบริษัทอย่าง XSspring Capital ที่ก็ได้เปิดแพลตฟอร์มเทรดคริปโตในปีต่อมา และยังมีเหรียญเป็นของตัวเองอย่าง “SirHun Token” อีกด้วย โดยตอนนี้บริษัท XSspring มีเป้าหมายที่จะเป็นกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดสามอันดับแรก ภายในปี 2025
ในส่วนทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีนโยบายว่า จะแจกเงินจำนวน 10,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นสกุลเงินดิจิตอลอีกด้วย
โดยตอนนี้คาดว่า นายเศรษฐาจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายในสิ้นเดือนกันยายน ก็ต้องมาดูกันว่าภูมิหลังที่มีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโตของเขาจะส่งผลกับนโยบายคริปโตในไทยหรือไม่
โดยไม่กี่วันก่อนวันเลือกตั้ง นายเศรษฐา ได้ทวีตใน X เพื่อที่จะเน้นย้ำว่า “สาเหตุที่เขาเข้าร่วมการเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นเพราะว่าเขาต้องการปรับปรุงประเทศและเศรษฐกิจให้ดีขึ้น” และเขาได้กล่าวเสริมว่า
“ศัตรูของเขา คือความยากจน และความไม่เท่าเทียมของประชาชน และเขามีเป้าหมายที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น”