ราคา Bitcoin ร่วงแตะ $26,000 อีกครั้งช่วงเมื่อคืนนี้ (24 สิงหาคม) หลังไม่สามารถดันราคาเหนือ 26,800 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ หลายวันมานี้ราคา Bitcoin ยังคงวิ่งอยู่ในกรอบ Sideway ที่ระหว่างราคา 25,000 ดอลลาร์ ถึง 26,000 ดอลลาร์และร่วงหลุดราคา 26,000 ดอลลาร์อยู่หลายครั้งในช่วงระหว่างวัน
สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา เหตุมาจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีโอกาสสูงที่เฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม “แจ็กสัน โฮล” คืนวันที่ 25 สิงหาคม
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงตลาดการเงิน นักลงทุนจึงเริ่มลดความเสี่ยงและรัดเข็มขัดให้แน่น ซึ่งรวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอเรนซี
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเชิงลบอื่นๆ ที่กดดันราคา Bitcoin เช่น สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
นักวิเคราะห์มองว่า ราคา Bitcoin มีโอกาสปรับตัวลงต่อได้ หากเฟดประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม “แจ็กสัน โฮล” คืนนี้ แต่หากเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ราคา Bitcoin อาจฟื้นตัวกลับมาได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ปัจจัยพื้นฐานของ Bitcoin ยังคงแข็งแกร่ง โดย Bitcoin ยังมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวขึ้นได้อีกครั้งเมื่อสถานการณ์ต่างๆ คลี่คลายลง
ในขณะที่รายงานราคา Bitcoin ซื้อขายกันอยู่ที่ $26,054 ลดลง 1.36% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟด “แจ็กสัน โฮล” ในคืนนี้อย่างใกล้ชิด โดยจะเริ่มขึ้นในเวลา 21.05 น. ตามเวลาไทย