นักขุด Bitcoin จำเป็นต้องขาย Bitcoin ที่ขุดได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในช่วงตลาดขาลงของ Bitcoin สถานการณ์เช่นนี้สร้างความกดดันให้กับนักขุดเป็นอย่างมาก
ราคา Bitcoin (BTC) ที่ร่วงลงไปแตะ 54,000 ดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้เหลือเครื่องขุดเพียงแค่ 5 เครื่องเท่านั้นที่ยังสามารถทำกำไรให้กับนักขุดได้ สถานการณ์นี้อาจเป็นสัญญาณของ “จุดต่ำสุด” ในรอบนี้
บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการขุด Bitcoin อย่าง F2Pool ได้เผยแพร่กราฟเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “เครื่องขุด ASIC ที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า 23 วัตต์ต่อเทราแฮช (W/T) จะขาดทุน หากอัตราราคาไฟฟ้าอยู่ที่ 0.08 ดอลลาร์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)”
F2Pool ได้เผยแพร่กราฟ แสดงผลกำไรของเครื่องขุด โดยระบุว่า มีเครื่องขุดเพียง 4 เครื่อง จากบริษัท Antminer และอีก 1 เครื่องจากบริษัท Avalon เท่านั้น ที่ยังทำกำไรได้ ตราบใดที่ราคา Bitcoin อยู่เหนือ $53,100 ส่วนเครื่องขุดอื่น ๆ ทั้งหมดในขณะนี้ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงกว่าผลตอบแทนที่ได้รับ
นักขุดคือ หน่วยงานหรือบุคคลที่คอยจัดหาพลังงานประมวลผลให้กับเครือข่ายบล็อกเชนเพื่อแลกกับ “รางวัล” ในรูปแบบโทเค็น รางวัลเหล่านี้จะถูกขายโดยนักขุดอย่างต่อเนื่องเพื่อครอบคลุมต้นทุนการดำเนินงาน ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง โดยนักขุดบางรายถึงขั้นยื่นฟ้องล้มละลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นักขุด Bitcoin ถือเป็นหนึ่งในแรงเทขายหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงในเดือนมิถุนายน โดยมีการเทขาย Bitcoin มูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ ขณะที่ราคา Bitcoin อยู่ระหว่างระดับ 65,000 ดอลลาร์ ถึง 70,000 ดอลลาร์ ตามที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ตลาดบางคนมองว่า ภาวะที่นักขุดขาดทุนอยู่นี้ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าราคา Bitcoin กำลังใกล้จุดต่ำสุดในช่วงนี้แล้ว เนื่องจากแรงเทขายจากฝั่งนักขุดมีน้อยลง
Dovey Wan หุ้นส่วนของกองทุนคริปโต Primitive Crypto กล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันศุกร์ว่า
“นักขุด Bitcoin กำลังจะยอมแพ้ (ใกล้ถึงจุดจำนน) ราคาเสมอทุนของเครื่อง ขุด Antminer S19 จะอยู่ที่ 52,000 ดอลลาร์ นี่เป็นสภาวะที่เหมาะสมสำหรับราคา Bitcoin จะถึงจุดต่ำสุดในช่วงนี้”
ที่มา : coindesk