ในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนที่ติดตามข่าวสารวงการคริปโตเคอร์เรนซีอาจจะพอทราบกันมาแล้วว่าทางรัฐบาลเยอรมนีได้ทำการเทขาย Bitcoin ออกเป็นจำนวนมากส่งผลให้ราคาในตลาดเกิดความผันผวนอย่างหนัก แต่แท้ที่จริงแล้วเหตุการณ์นี้มีความซับซ้อนมากกว่านั้น
โดยความเป็นจริงแล้วประเทศเยอรมนีไม่ได้เป็นคนขาย Bitcoin แต่เป็นรัฐเล็ก ๆ รัฐหนึ่งทางตะวันออกของประเทศที่ชื่อซัคเซิน (Saxony) ที่ได้เป็นคนขาย Bitcoin เพราะไม่มีทางเลือก
ย้อนกลับไปก่อนหน้าจะพบว่ากองบังคับการตำรวจสันติบาลของรัฐบาลหรือ LKA ได้ทำการยึด Bitcoin กว่า 49,857 BTC จากเว็บเถื่อน Movie2k.to ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ทางรัฐซัคเซินตัดสินว่ามีความผิดในคดีฟอกเงิน และอื่น ๆ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทางรัฐซัคเซินจำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบในการ liquidate สินทรัพย์ที่ยึดมาได้ เพื่อให้เป็นไปตามโปรโตคอลของกระบวนการยึดทรัพย์ที่ได้มา โดยเมื่อถึงเวลาหนึ่งสินทรัพย์เหล่านั้นจำเป็นต้องถูกขายออกไปอยู่ดี
ทว่าสาเหตุที่ ที่อยู่กระเป๋าเงินเป็นของทาง BKA ไม่ใช่ของรัฐซัคเซินเองเป็นผลมาจากหน่วยงานดังกล่าวได้มีส่วนในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ อีกทั้งมีความสามารถและความรู้มากพอที่จะจัดการกับ Bitcoin จำนวนมาก ซึ่งจะเห็นได้ว่าทาง BKA ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจที่จะขายแต่ทำตามคำสั่งจากรัฐเพียงเท่านั้น
โดยปกติแล้วสินทรัพย์ที่ยึดมาได้จะสามารถขายออกหรือขนย้ายได้ เพื่อนำไปเป็นงบประมาณก็ต่อเมื่อมีคำสั่งจากศาลออกมา อย่างไรก็ตามรัฐสามารถยื่นคำขอการขายแบบฉุกเฉินได้ในกรณีที่มูลค่าสินทรัพย์กำลังลดลงอย่างมากหรือไม่สร้างความยากลำบากในการจัดเก็บ โดย Bitcoin ก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่เข้าข่ายในเกณฑ์ข้างต้น
อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของรัฐซัคเซินเองได้ทำให้หลายฝ่ายต่างก็ปวดหัว เช่นทางเว็บเทรดที่ได้ส่ง Bitcoin มูลค่ากว่า $200 ล้านคืนเนื่องจากไม่มีแรงซื้อมากพอเมื่อเทียบกับจำนวนเหรียญที่ส่งเข้ามา ส่วนทางด้านโซเชียลมีเดียก็แทบจะลุกเป็นไฟ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลหลายประเทศเลือกที่จะเก็บ Bitcoin สำรองเอาไว้ ทำให้ผู้ที่ยังไม่ทราบความจริงระบุว่าการกระทำของรัฐเยอรมนีเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา
ที่มา : yahoo