เจ้าหนี้ของ FTX ต้องเผชิญกับข่าวร้ายอีกครั้ง เมื่อพวกเขาจะได้รับเงินคืนเพียง 10-25% จากเหรียญคริปโตที่ติดค้างอยู่บนเว็บเทรด ตามเอกสารการล้มละลายฉบับแก้ไขใหม่ที่เปิดเผยโดย Sunil Kavuri หนึ่งในเจ้าหนี้รายใหญ่ของ FTX ที่เป็นกระบอกเสียงหลักของกลุ่มผู้เสียหาย
นักเคลื่อนไหวและผู้เป็นเจ้าหนี้ของ FTX รายนี้ได้อธิบายว่า การคืนเงินให้กับเจ้าหนี้จะเป็นไปตามวันที่ได้ยื่นคำร้อง ซึ่งในช่วงเวลานั้นราคาเหรียญคริปโตต่าง ๆ มีมูลค่าต่ำกว่าปัจจุบันมาก เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่มีการยื่นคำร้องทางกฎหมาย ราคา Bitcoin (BTC) อยู่ที่ประมาณ $16,000 ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบันอย่างมาก
การตัดสินใจที่จะคืนเงินให้เจ้าหนี้และลูกค้าของ FTX โดยใช้ราคาของเหรียญในวันที่ยื่นคำร้อง ได้สร้างความไม่พอใจอย่างมากในกลุ่มเจ้าหนี้ FTX โดย Kavuri กล่าวว่า
“ผู้ถือครองคริปโตไม่ได้รับการชดเชยเต็มมูลค่าตามราคาของวันที่ยื่นคำร้อง ซึ่งได้รับการยืนยันจากลูกหนี้, กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ และผู้พิพากษา Kaplan ลูกค้าหลายรายของ FTX ยังคงประสบกับความทุกข์ทางจิตใจอย่างรุนแรง มีอาการตื่นตระหนก, ปัญหาการหย่าร้าง และแม้แต่ความคิดฆ่าตัวตาย เพราะเงินเก็บทั้งชีวิตของพวกเขาถูกขโมยไป และทรัพย์สินก็ยังไม่ได้รับการคืนกลับมา”
เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ของ FTX และผู้คนมากมายต่างแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันกับ Kavuri โดยมีผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวว่า “น่ารังเกียจมากที่พวกเขาแอบใส่เรื่องนี้เข้ามาในแผนการในช่วงท้าย หลังจากการโหวตลงคะแนนเสร็จแล้ว” อีกหนึ่งเจ้าหนี้ของ FTX แสดงความคิดเห็นว่า “ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมกฎหมายถึงไม่สามารถปกป้องนักลงทุนอย่างพวกเราได้” พร้อมทั้งระบุว่าการล่มสลายของ FTX นั้นเหมือนการหลอกลวง เจ้าหนี้อีกรายหนึ่งกล่าวเสริมว่า “น่าอับอายมาก เราถูกหลอกซ้ำสอง!”
นอกจากนี้ Kavuri ยังโต้แย้งอีกว่า Sam Bankman-Fried ละเมิดเงื่อนไขการให้บริการของ FTX และนิยามสิทธิในทรัพย์สินอย่างกว้าง ๆ ด้วยการนำเงินของลูกค้าไปใช้ในการชำระหนี้ของ Alameda และนำไปซื้อหุ้นเพิ่ม
“เงื่อนไขการให้บริการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกค้า FTX ซึ่ง Sam ถูกตัดสินว่ามีความผิด ในการละเมิดข้อกำหนดการให้บริการ และการโอนเงินของลูกค้าไปใช้ชำระหนี้ของ Alameda รวมถึงการซื้อหุ้น Robinhood”
อัปเดตสถานการณ์ล่าสุด FTX
การพิจารณาคดีปรับโครงสร้างหนี้ของ FTX ครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะถือเป็นจุดตัดสินครั้งสำคัญที่ทุกคนเฝ้าจับตามอง
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคดีการปรับโครงสร้างหนี้ของ FTX ได้รับการอนุมัติ เจ้าหนี้ที่เรียกร้องเงินคืนต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ อาจได้รับเงินชดเชยเร็วที่สุด ภายในสิ้นปี 2024 ในขณะที่เจ้าหนี้ที่เรียกร้องเงินคืนสูงกว่านั้น อาจต้องรอไปอีกจนถึงปี 2025
ที่มา:cointelegraph