Paolo Ardoino ซีอีโอคนปัจจุบันของ Tether บริษัทผู้ออกเหรียญ stablecoin อย่าง USDT กล่าวว่า ในปัจจุบันความต้องการ stablecoin ในประเทศต่าง ๆ ภายนอกสหรัฐ ฯ กำลังพุ่งขึ้นสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มีภาวะเงินเฟ้อสูง หรือมีรากฐานทางการเงินที่ไม่มั่นคง
Ardoino ระบุว่าตัวของ USDT นั้นแม้มันจะเริ่มต้นมาจากการเป็นคริปโตเคอร์เรนซี แต่ในตอนนี้มันกลายเป็นทางเลือกสำหรับการเก็บรักษามูลค่า ผ่านการใช้งานตลาดคริปโต โดยที่ผู้ถือเหรียญไม่จำเป็นต้องกังวลว่า Bitcoin จะเข้ามาทำให้ราคาเหรียญผันผวน
เขายกตัวอย่างถึงกรณีในประเทศอาเจนตินา และตุรกีว่า stablecoin เปรียบเหมือนทางออกสำหรับปัญหาค่าเงินภายในประเทศที่ไม่เสถียร โดยก่อนที่จะมี USDT ประชาชนในประเทศเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตลาดมืดเพื่อให้สามารถเข้าถึงเงินสกุลเงินภายนอกประเทศอย่าง ดอลลาร์สหรัฐฯ
Ardoino ชี้ให้เห็นว่าสาเหตุที่ความต้องการ USDT พุ่งขึ้นสูงภายนอกสหรัฐฯ นั่นก็เพราะว่ามันมีช่องทางมากกว่า 15 แบบในการถือครองหรือเคลื่อนย้ายดอลลาร์ในสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บัตรเครดิต Paypal และอื่น ๆ ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ นั้นไม่มีทางเลือกมากเท่า นั่นจึงทำให้ USDT มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดเป็นลำดับ 3 ของตลาดคริปโต
ถัดมาในประเด็นที่ Tron ได้รับให้เป็นบล็อกเชนในการออกเหรียญ USDT ตัวของ Ardoino กล่าวว่าเป็นเพราะค่าธรรมเนียม Tron ที่ถูกเอามาก ๆ โดยการ swap 1 ครั้งอาจเสียเงินไปไม่ถึง 0.2 ดอลลาร์ ในขณะที่ถ้าเป็นเชนอย่าง Ethereum จะมีค่าแก๊สที่สูงกว่าหลายเท่าตัว ลองนึกสภาพดูว่าถ้าคุณเป็นชาวเฮติที่ได้ค่าแรงวันละ $1.34 คุณจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าธรรมเนียม ดังนั้น Tron จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
อย่างไรก็ตาม USDT ยังคงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของตัวเหรียญ อีกทั้ง Tether ยังได้ถูกตั้งคำถามอีกว่าทางบริษัทได้มีการสำรองเงินทุนเท่ากับมูลค่าของเหรียญที่ได้มีการผลิตออกมาสู่ตลาดหรือไม่ ซึ่งทาง Ardoino ได้ทำการปฏิเสธทฤษฏีเหล่านี้ พร้อมระบุว่าทาง Tether มีเงินทุนเพียงพออย่างแน่นอน
- ที่มา : Coindesk
- ภาพ : Cryptoslate