Tether ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาจากรายงานของสื่อ Wall Street Journal (WSJ) ที่ระบุว่าบริษัทกำลังถูกสหรัฐฯ ตรวจสอบเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (Anti-Money Laundering: AML) โดย Tether ย้ำว่านี่เป็น “การคาดเดาล้วนๆ” และไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานใดที่สนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าว
ในขณะที่โฆษกของ Tether ได้ออกมาตอบโต้ว่า WSJ ได้รายงานข้อกล่าวหาแบบ “ไม่รับผิดชอบ” โดยปราศจากหลักฐานและการยืนยันจากแหล่งข่าวที่เป็นทางการ ทั้งนี้ Tether ระบุว่าบริษัทไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนใดๆ ที่มุ่งเป้ามาที่ Tether ในลักษณะที่ WSJ อ้างถึง
การรายงานของ WSJ เกิดขึ้นในช่วงที่ Consumers’ Research ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในกลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่ได้ออกมาโจมตี Tether โดยระบุว่าบริษัทอาจมีความเกี่ยวข้องกับ “กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม” โดย Will Hild ผู้อำนวยการของ Consumers’ Research ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบบัญชีของ Tether เพื่อยืนยันความโปร่งใสของการดำเนินงานของบริษัท
ในขณะที่ Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether เน้นย้ำว่า บริษัทมีทุนสำรองที่แข็งแกร่ง โดยถือครองตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่าราว 100 พันล้านดอลลาร์, 82,000 BTC และทองคำ 48 ตัน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ค้ำประกัน USDT
อย่างไรก็ตาม รายงานของ WSJ ไม่ได้กล่าวหาว่า Tether บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับทุนสำรองของบริษัท และไม่ได้ระบุว่าบริษัทละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการค้ำประกันทรัพย์สินแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ในปี 2021 Tether ยังได้ยอมรับข้อตกลงกับ Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และชำระค่าปรับ 42.5 ล้านดอลลาร์ สำหรับข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้ที่ USDT มีการค้ำประกันด้วยดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งทาง Ardoino ยังกล่าวถึงความร่วมมือของ Tether กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยบริษัทได้ “ระงับ” การใช้งานกระเป๋าเงินที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ต้องสงสัยว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายไปแล้วเกือบ 2,000 รายการ
ที่มา: CoinPaprika