รายงาล่าสุดจาก Jeff Walton ที่ปรึกษาด้านการเงินได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัท MicroStrategy อาจสามารถรับมือกับราคาของ Bitcoin ที่ตกต่ำถึง 20,000 ดอลลาร์ หรือร่วงลงกว่า 80% ได้ โดยไม่กระทบต่อกลยุทธ์การถือครอง Bitcoin ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
แม้ว่า MicroStrategy จะเพิ่มความเสี่ยงในการถือครอง Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยได้ลงทุนเพิ่มใน Bitcoin อีกหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นเกือบ 40% ในเดือนพฤศจิกายน แต่การวิเคราะห์ล่าสุดชี้ว่า แม้ราคาจะปรับฐานในระยะยาวก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อบริษัท หรือ Michael Saylor ผู้ก่อตั้งและผู้ผลักดันกลยุทธ์การถือครอง Bitcoin
“ราคาของ Bitcoin จะต้องลดลงถึง 18,826 ดอลลาร์ เพื่อให้สินทรัพย์ของ MicroStrategy มีมูลค่าต่ำกว่าหนี้สิน” ซึ่งคิดเป็นการลดลง 80% จากราคาปัจจุบัน
ข้อมูลนี้ถือเป็นการตอบกลับคำวิจารณ์ในการใช้ Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Bitcoin เคยเผชิญกับการลดลงถึง 80% เช่น ช่วงพฤศจิกายน 2021 ถึงพฤศจิกายน 2022 ที่ราคาลดจาก 69,000 ดอลลาร์ เหลือเพียง 15,600 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม Walton ชี้ว่าการโต้แย้งดังกล่าวไม่ได้มีเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอ
“เมื่อราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้น การใช้ประโยชน์ทางการเงิน (leverage) จะลดลงอย่างรวดเร็ว” Walton กล่าว พร้อมท้าทายผู้วิจารณ์ที่มองว่า Bitcoin เป็น “แชร์ลูกโซ่” ว่าให้ลองวิเคราะห์ดูใหม่
ในขณะที่ Charles Edwards ผู้ก่อตั้ง Capriole Investments แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า MicroStrategy เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในกระแสการลงทุนของสถาบันที่เพิ่มขึ้นในตลาด Bitcoin โดยในมุมมองของเขา ตลาดอาจยังไม่ตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงของการเคลื่อนไหวนี้
“MSTR ระดมเงินเพิ่มหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Bitcoin ส่วน MARA (Marathon Digital Holdings) เพิ่มการถือครอง Bitcoin ของตัวเองถึง 30% ด้วยการระดมทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ ความต้องการจากสถาบันเหล่านี้น่าทึ่งมาก”
ที่มา: Cointelegraph