<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“เจนเซน หวง” ซีอีโอ NVIDIA  ยกประเทศไทยเป็น “The AI Land” พร้อมผลักดัน Sovereign AI สู่อนาคต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นาย Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ NVIDIA บริษัทผู้นำด้านการผลิตชิป AI ระดับโลก ได้เดินทางมาเข้าร่วมงาน “AI Vision for Thailand” และได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “The First Step for Thailand Sovereign AI” โดยงานนี้ยังได้รับเกียรติจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของ AI ในประเทศไทย

ในงานนี้ Jensen Huang ได้ยกตัวอย่าง Siam.AI ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพของคนไทยที่กำลังพัฒนา Open Thai GPT โครงการที่มุ่งสร้าง AI ที่เข้าใจภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง เพื่อช่วยลดข้อจำกัดด้านภาษาสำหรับคนไทย Huang ระบุว่า การพัฒนา AI ที่รองรับภาษาไทยจะเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีระดับโลกเข้ากับชีวิตประจำวันของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการศึกษา การสื่อสาร หรือธุรกิจ

เขาเน้นว่าโมเดลอย่าง Open Thai GPT เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ Sovereign AI หรือ AI ที่พึ่งพาตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มต่างชาติแบบเดิม นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยจะสามารถสร้าง AI ที่เข้าใจบริบทของคนในประเทศได้อย่างแท้จริง

นอกจากนั้น Huang ยังกล่าวถึงความโดดเด่นของ AI ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลกยุคใหม่ ด้วยความสามารถที่มอบ “ความรู้” ให้กับทุกคนอย่างกว้างขวาง AI ถูกออกแบบให้เข้าใจภาษาต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถแปลงข้อมูลจากภาษาใดก็ได้ไปสู่ภาษาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการถอดข้อมูลจากภาพหรือวิดีโอให้กลายเป็นข้อความภาษาไทย หรือในอนาคตอาจพัฒนาให้แปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาอื่นๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกสบายที่ AI สามารถมอบให้กับผู้คนได้อย่างน่าประทับใจ เขาย้ำว่า AI ไม่ได้มาแทนที่คน แต่กลับเสริมความสามารถให้มนุษย์สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นและปลอดภัยขึ้น

แม้ NVIDIA จะไม่ได้มาลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในไทย แต่พวกเขาเลือกที่จะสนับสนุนระบบนิเวศที่เกี่ยวกับ AI ในไทยแทน เช่น การสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Center) และเทคโนโลยี Super AI ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ใช้งานในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การศึกษา หรือแม้แต่ภาคการแพทย์

Huang ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมในภูมิภาคอาเซียน และเขาเชื่อมั่นว่าการพัฒนา AI ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย เช่น Sovereign AI หรือ AI ที่สามารถใช้งานและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของประเทศ จะช่วยให้ไทยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกมากเกินไป

เขายังย้ำว่า ไม่เพียงแค่เทคโนโลยี AI จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ยังสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทยในทุกมิติ ตั้งแต่การเกษตรไปจนถึงการดูแลสุขภาพ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมองว่าไทยมีศักยภาพที่จะกลายเป็น “Th AI Land” ซึ่งเป็นคำพ้องเสียงมาจาก “THAILAND” เพื่อใช้เรียกประเทศไทยว่าเป็นดินแดนแห่ง AI อย่างแท้จริง