China Central Television หรือ CCTV สื่อข่าวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน กล่าวว่า การระดมทุน ICO ในประเทศยังคงลอยนวลอยู่ ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลจะได้ทำการแบนไปแล้วเมื่อปี 2017
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา ในข่าวช่วง Financial News สื่อดังกล่าวรายงานว่า ถึงแม้รัฐบาลจีนจะประกาศแบน ICO ไปแล้วเมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนนักลงทุนภายในประเทศจะไม่ได้สนใจเท่าไรนัก ในทางตรงกันข้าม มันยิ่งกลับทำให้แนวคิดที่ว่าจะสามารถรวยข้ามคืนนั้นแพร่กระจายไปกว้างกว่าเดิมในวงการคริปโต
อ้างอิงจาก CCTV ชุมชนคริปโตในประเทศจีนเรียกโปรเจกต์ที่ไม่ได้ถูกสนับสนุนด้วยบริษัทที่จดทะเบียนว่า “Air Coins” ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน Air Coins เพิ่มขึ้นมากกว่า 30 เท่า หากนับตั้งแต่การแบน ICO เกิดขึ้น
“ในขณะที่หลากหลายโปกเจกต์ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนย้ายไปอยู่ที่ต่างประเทศหลังจากที่มีการแบนเกิดขึ้น มี Air Coins จำนวนมากที่ยังคงดำเนินการระดมทุนอยู่ภายในประเทศ เพราะว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่ทีมของกลุ่มคนที่รวมตัวกัน ซึ่งไม่ได้เป็นบริษัทที่ถูกกฎหมายด้วยซ้ำ”
รายงานกล่าวถึงวิธีการที่ Air Coins เหล่านี้จะสร้างความน่าเชื่อถือให้นักลงทุนว่า พวกเขาจะอ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับนักลงทุนคริปโตชื่อดัง เช่น นาย Li Xiaolai ซึ่งเป็นนักลงทุน Bitcoin คนแรก ๆ และยังเป็นผู้ให้ทุนแก่โปรเจกต์ต่าง ๆ ในประเทศจีน คำพูดของนาย Li ถูกอ้างอิงในช่วงรายการว่า:
“99.9 เปอร์เซ็นต์ ผมไปเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์เหล่านี้โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ภายในวงการคริปโตนั้นมีการ FOMO ตลอดเวลาภายในหมู่นักลงทุน ซึ่งหากเวลาพวกเขาตัดสินใจไม่ได้ ก็จะตัดสินใจเชื่อโปรเจกต์ที่มีคนดัง ๆ เกี่ยวข้องอยู่ด้วย”
สื่อยังได้รายงานถึงความพยายามของรัฐบาลจีนที่พยายามจะให้ความรู้เกี่ยวกับคริปโตและ Blockchain แก่ประชาชนอีกด้วย เพื่อที่พวกเขาจะสามารถแยกแยะได้ว่าโปรเจกต์ไหนคือนักต้มตุ๋นอีกด้วย
หากมองในประเทศไทยนั้น ทางรัฐบาลยังไม่ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องดังกล่าวมากนัก ส่วนใหญ่เป็นภาคเอกเชนในการให้ความรู้เสียมากกว่า ผู้เขียนคิดว่าทางรัฐบาลไทยควรให้ความรู้ พร้อมควบคู่การออกกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโต ถึงจะสามารถป้องกันนักลงทุนจากนักต้มตุ๋นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น