บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล Grayscale ได้ก้าวไปอีกขั้นในการทำให้ Dogecoin กลายเป็นกองทุน ETF โดยการยื่นใบสมัคร 19b-4 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ หรือ SEC เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2025 เพื่อแปลง Dogecoin Trust ที่เพิ่งเปิดตัวไปเป็นกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนหรือที่รู้จักกันในชื่อกองทุน ETF
การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วนี้เกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัวกองทุน Dogecoin Trust ในวันเดียวกัน และส่งสัญญาณถึงความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นของ Grayscale ในอุตสาหกรรมคริปโต
การเคลื่อนไหวของ Grayscale เกี่ยวกับ Dogecoin
การยื่นเอกสารดังกล่าวซึ่งส่งถึง SEC ผ่านตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับ Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เคยถูกมองข้าม แต่ได้รับความสนใจจากตลาดอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
การแปลงเป็นกองทุน ETF นี้จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยสามารถเข้าถึง Dogecoin ได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจผลักดันให้มีการใช้สินทรัพย์นี้ในวงกว้างมากขึ้น
การเคลื่อนไหวของ Grayscale สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของ Ecosystem ของ Dogecoin ซึ่งตอนนี้ไปไกลกว่าเหรียญมีมแล้วและได้พัฒนาไปเป็นสินทรัพย์ที่มีกรณีการใช้งานที่จับต้องได้ เช่น การเข้าถึงบริการทางการเงินและการชำระเงินผ่านบล็อคเชน
ความสำเร็จในอดีตของบริษัทกับกองทุน ETF ของ Bitcoin และ Ethereum ได้สร้างบรรทัดฐาน และเป็นที่ชัดเจนว่า Grayscale มองว่า Dogecoin เหรียญที่มีศักยภาพที่จะจัดตั้งกองทุน ETF
การเพิ่มขึ้นของกองทุน ETF ในอุตสาหกรรมคริปโต
การยื่นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสกองทุน ETF ที่รุนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโต โดยการชนะการเลือกตั้งของประธานาธิบดี Donald Trump ได้ทำให้หลายคนมองว่ากฎระเบียบที่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโตจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแต่งตั้ง Paul Atkins ประธาน SEC ซึ่งเป็นคนที่สนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Grayscale และ Bitwise ยื่นขอเปิดกองทุน ETF ของ Dogecoin ได้
การยื่น ETF ทั้งสองรายการ ได้แก่ Grayscale และ Bitwise ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งส่งสัญญาณถึงการผลักดันร่วมกันเพื่อยกระดับสถานะของ Dogecoin ให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์การลงทุนที่จริงจัง
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับกองทุน ETF ของ Dogecoin
แม้ว่า SEC จะยังไม่ได้อนุมัติการยื่นของ Grayscale หรือ Bitwise แต่ความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่มากขึ้นอาจผลักดันให้มีกฎระเบียบที่ชัดเจนที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งอาจช่วยปูทางไปสู่การยอมรับเหรียญมีมในตลาดการเงินที่กว้างขึ้น
Source: TheCoinRepublic