ร่างกฎหมายใหม่ในสหรัฐฯ ที่เสนอให้สร้างกองทุนสำรอง Bitcoin ในระดับรัฐ อาจช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อ BTC มูลค่ามากถึง 23,000 ล้านดอลลาร์ หากผ่านการอนุมัติ ตามการวิเคราะห์ของบริษัทจัดการสินทรัพย์ VanEck
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ VanEck เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม X ว่า บริษัทได้ศึกษาร่างกฎหมายทุนสำรอง Bitcoin ในระดับรัฐ จำนวน 20 ฉบับ และพบว่า หากมีผลบังคับใช้ รัฐบาลของรัฐต่างๆ อาจต้องซื้อ Bitcoin รวมกันราว 247,000 BTC
การวิเคราะห์ดังกล่าวยังไม่ได้รวมการซื้อ Bitcoin ที่อาจเกิดขึ้นจากกองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐต่างๆ ซึ่งหากมีการเพิ่ม BTC เข้าไปในกองทุนเหล่านี้ อาจทำให้ความต้องการ Bitcoin เพิ่มขึ้นอีก
Sigel ระบุเสริมว่า “ตัวเลข 23,000 ล้านดอลลาร์นี้ยังถือว่าค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เนื่องจากข้อมูลจากบางรัฐยังไม่ชัดเจน”
![](https://siamblockchain.com/wp-content/uploads/2025/02/image-208.png)
นอกจากรัฐบาลของแต่ละรัฐแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ ขณะเดียวกัน มีบริษัทมากกว่า 150 แห่งที่กำลังสะสม Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง โดยให้เหตุผลว่า BTC เป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อที่มีศักยภาพ
ในเดือนกุมภาพันธ์ Trump ได้ออกคำสั่งให้จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ซึ่งนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า อาจถูกใช้เป็นช่องทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อ Bitcoin
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 มกราคม New York Post รายงานว่า Trump มีท่าทีเปิดรับแนวคิดการขยายทุนสำรองให้ครอบคลุมสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ เช่น USD Coin (USDC), Solana (SOL) และ XRP
Kalshi แพลตฟอร์มทำนายผลที่ได้รับการรองรับจาก CFTC ให้โอกาส 52% ที่ Trump จะเดินหน้าสร้างกองทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติภายในปีนี้
ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง นักวิเคราะห์จาก CoinShares มองว่า “การสร้างทุนสำรอง BTC ในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยเร่งการยอมรับ Bitcoin ได้มากกว่าการเปิดตัว ETF ในปี 2024”
ที่มา:cointelegraph