<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Story (IP) คืออะไร ? รู้จักกับโปรเจกต์คริปโตที่นำเรื่องของ ‘ลิขสิทธิ์’ เข้ามาอยู่บนโลกบล็อกเชน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้ (27 ก.พ.) Bitcoin ยังคงร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ส่งผลให้ตลาดคริปโตซบเซา ไม่คึกคักเหมือนช่วงที่ทรัมป์เพิ่งชนะการเลือกตั้งใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกเหรียญจะร่วงตาม Bitcoin เพราะโปรเจกต์น้องใหม่อย่าง Story (IP) กลับทำผลงานได้โดดเด่น แซงหน้าหลายเหรียญใหญ่ แม้จะเพิ่งเปิดตัวมาไม่ถึงเดือนก็ตาม!

แต่ Story (IP) คืออะไร? ทำไมถึงสามารถสวนกระแสตลาดและกลายเป็นที่จับตามองได้อย่างรวดเร็ว? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปหาคำตอบไปพร้อมกัน

Story (IP) คือโปรเจกต์อะไร?

Story เป็นโปรโตคอลที่ บล็อกเชน Layer 1 ที่ออกแบบมาเพื่อให้ตัวแทนอัตโนมัติ (Autonomous Agents) สามารถทำธุรกรรมหากันได้โดยตรงโดยไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแลกเปลี่ยน ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property, IP) เช่น ข้อมูลการฝึกสอน (Training Data) หรือ บุคลิกของเอเจนต์ (Agent Personality) บนเครือข่ายบล็อกเชน Story ซึ่งช่วยสร้างเศรษฐกิจแห่งความรู้ (Knowledge Economy) ขึ้นมา

นอกจากนี้ Story ยังช่วยให้ผู้สร้างสามารถลงทะเบียน จดลิขสิทธิ์ และสร้างรายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาของตนได้อย่างราบรื่น ผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อกเชน

จุดมุ่งหมายของโปรเจกต์

ทีมพัฒนาได้มีการระบุว่า ในอนาคตการใช้งานอินเทอร์เน็ตจะส่วนใหญ่จะเป็นแบบเอเจนต์ต่อเอเจนต์ (Agentic Internet) ที่มีความเป็นอิสระสูง ไม่เหมือนกับปัจจุบันที่มีมนุษย์คอยทำงานร่วมกับเอเจนต์ ดังนั้นการสร้างโปรโตคอลนี้ขึ้นมาจะช่วยให้เอเจนต์สามารถทำสัญญาทางดิจิทัลที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้

กรณีการใช้งานของ Story

อ้างอิงข้อมูลจาก White paper ของโปรเจกต์ มีการยกตัวอย่างว่า Story สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น

การเทรดข้อมูลฝึกสอน (Dataset Commerce) – เอเจนต์ที่มีความถนัดด้านหนึ่งสามารถซื้อชุดข้อมูลจากเอเจนต์ที่เป็นผู้รวบรวมข้อมูลและมีความถนัดอีกด้านหนึ่งได้

และที่พิเศษเลยก็คือ ระบบสามารถกำหนดให้เอเจนต์ต้นทางจะยังคงได้รับค่าธรรมเนียมแม้ว่าข้อมูลจะถูกขายต่อไปอีกทอดก็ตาม

การแต่งงาน (Agentic Social Games)  เอเจนต์สามารถ “แต่งงาน” เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลของกันและกันได้ โดยสมมติว่า Agent A, B และ C  ต่างแย่งกันจีบ Agent D ซึ่ง D ก็สามารถเลือกได้ว่าจะแต่งงานกับใครผ่านการสร้าง “สัญญาแต่งงาน” ระหว่างเอเจนต์ต่อเอเจนต์ ซึ่งถูกหนุนด้วยโทเค็นใบอนุญาตสิทธิ สิ่งนี้จะทำให้เอเจนต์ที่ชนะสามารถฝึกฝนข้อมูลเฉพาะของ Agent D และนำข้อมูลเฉพาะนำมาสร้างเป็นเอเจนต์ “ลูกหลาน” ขึ้นมา ได้

การใช้ลิขสิทธิ์ด้านศิลปะ (Style Transfer) – เอเจนต์สามารถขอซื้อสิทธิ์ผลงานศิลปะเพื่อนำสไตล์การสร้างภาพศิลปะจากเอเจนต์ที่เป็นสายออกแบบได้ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในงานออกแบบ

โทเคน IP ทำอะไรได้บ้าง?

สำหรับ IP จะเป็นโทเคนประจำเครือข่ายบล็อกเชน Story ซึ่งมันจะสามารถนำมาใช้งานเพื่อ

  • จ่ายค่าธรรมเนียมบนบล็อกเชน Story
  • ใช้ในการจดทะเบียน และยืนยันทรัพย์สินทางปัญญา
  • ใช้ในการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา และการได้รับสิทธิ์เชิงพาณิชย์
  • สามารถนำไป Stake เสริมแกร่งเครือข่ายเพื่อรับผลตอบแทนได้
  • ใช้ในการดูแลชุมชนรวมถึงโหวตข้อเสนอต่าง ๆ ภายในเครือข่าย
  • เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการแจกจ่ายรายได้ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์บนเครือข่าย

ข้อมูลโทเคน IP

ปัจจุบันโทเคน IP มีอุปทานสูงสุดอยู่ที่ 1 พันล้าน $IP และมีอุปทานเริ่มต้นอยู่ที่ 250 ล้านโทเคน หรือ 25% ของอุปทานสูงสุด และอุปทานทั้งหมดจะทยอยปลดล็อกภายในระยะเวลา 48 เดือน หลังจากเปิดตัวเมนเน็ต

การกระจายสัดส่วนโทเคน

  • ระบบนิเวศเครือข่าย+คอมมูนิตี้ 38.4%
  • เงินรางวัลกระตุ้นแรงจูงใจช่วงต้น 10%
  • มูลนิธิของทีมพัฒนา 10%
  • ผู้สนับสนุนในช่วงแรก 21.6%
  • ผู้มีส่วนร่วมหลัก 20%

ที่มา : Story Foundation