เกาหลีเหนือได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำที่มีการถือ Bitcoin มากที่สุดในโลก แซงหน้าประเทศที่ได้รับการยอมรับในแวดวงคริปโตอย่าง เอลซัลวาดอร์และภูฏานได้อย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากการโจรกรรมคริปโตครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือ Lazarus โดยเป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้คือ กระดานเทรดคริปโตชั้นนำอย่าง Bybit
หลังจากการโจมตี Bybit สำเร็จ กลุ่มแฮ็กเกอร์ได้ทำการแปลง Ethereum ที่ขโมยมาเป็น Bitcoin จำนวนมหาศาลถึง 13,562 BTC ซึ่งมีมูลค่าปัจจุบันราว 1.14 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีเหนือกลายเป็นประเทศที่มีการถือ Bitcoin มากเป็นอันดับ 3 ของโลกในกลุ่มรัฐบาล โดยมีปริมาณ Bitcoin มากกว่าทั้งเอลซัลวาดอร์ (6,117 BTC) และภูฏาน (10,635 BTC) อย่างเห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ สร้างความกังวลอย่างมากในวงการคริปโตทั่วโลก เนื่องจากเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตร กลับสามารถสะสม Bitcoin ได้มากกว่าประเทศที่ใช้วิธีการที่ถูกกฎหมายอย่างเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ยอมรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมาย หรือภูฏานที่ ขุด Bitcoin ด้วยพลังงานสะอาด
ล่าสุด Bybit ได้ประกาศเปิดตัวโครงการ “LazarusBounty” มูลค่า 140 ล้านดอลลาร์ เพื่อติดตามและกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไป โดยเสนอรางวัล 10% ของเงินที่กู้คืนได้ ปัจจุบันมีการติดตามเงินที่ถูกขโมยไปแล้ว 88.97% ขณะที่ 7.50% ยังไม่สามารถระบุได้ และมีเพียง 3.52% เท่านั้นที่ถูกอายัดได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ‘สหรัฐอเมริกา’ ยังคงเป็นผู้นำด้าน Bitcoin ด้วยการถือครอง 198,109 BTC และสหราชอาณาจักรอยู่ในอันดับ 2 โดยมี Bitcoin 61,245 BTC ที่ได้ยึดมาจากผู้กระทำความผิด
ที่มา:thecoinrepublic