เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ในงานบรรยายที่สำนักงานใหญ่ของ DeepMind ณ กรุงลอนดอน เดมิส ฮัสซาบิส (Demis Hassabis) ซีอีโอของ Google DeepMind ได้คาดการณ์ว่า ปัญญาประดิษฐ์ระดับทั่วไป (AGI – Artificial General Intelligence) หรือ AI ที่สามารถทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์ในทุกด้าน อาจเริ่มเป็นจริงภายใน 5-10 ปี
Demis Hassabis กล่าวว่า ” AI ในปัจจุบันยังทำอะไรได้ไม่มาก แต่ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า เราจะเริ่มเห็นความสามารถ AI เหล่านั้นพัฒนาไปสู่ความสามารถระดับมนุษย์มากขึ้น (AGI) ”
Demis Hassabis อธิบายว่า AGI หมายถึง ระบบที่สามารถทำงานได้ทุกอย่างเหมือนมนุษย์ ทั้งในแง่ของการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ ซึ่งตอนนี้ AI ยังทำไม่ได้ทั้งหมด แม้จะมีความสามารถที่น่าประทับใจในบางด้าน
“ตอนนี้ AI เก่งในบางเรื่อง แต่ยังมีหลายอย่างที่ทำไม่ได้ และยังต้องทำการวิจัยอีกมากก่อนจะไปถึงจุดนั้น” Demis Hassabis กล่าว
แนวคิดนี้ แตกต่างจากมุมมองของผู้นำในอุตสาหกรรม AI บางคน เช่น ดาริโอ อาโมเดอิ (Dario Amodei) ซีอีโอของ Anthropic ซึ่งเคยกล่าวว่า AI ที่ฉลาดกว่ามนุษย์เกือบทุกด้าน อาจเกิดขึ้นภายใน 2-3 ปี
จีตู พาเทล (Jeetu Patel) ผู้บริหารของ Cisco ที่มองว่า AGI อาจมาเร็วกว่านั้น โดยอาจเริ่มปรากฏให้เห็นในปี 2025
ขณะที่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) คาดการณ์ว่า AGI จะเกิดขึ้นในปี 2026 ส่วน แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI มองว่า การพัฒนา AGI นี้กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ซึ่งจะเห็นได้ว่า Demis Hassabis ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียว ที่เชื่อว่า AGI จะใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปี
Demis Hassabis ชี้ว่า ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของ AGI คือ การทำให้ AI เข้าใจและปรับตัวกับบริบทในโลกความเป็นจริงได้ ซึ่งแตกต่างจากการใช้ AI ในเกม เช่น AlphaGo ที่สามารถเอาชนะแชมป์โลกในเกมโกะได้ เพราะ AI ในลักษณะนี้ถูกออกแบบให้ทำงานเฉพาะด้าน และอยู่ในกรอบของกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่เมื่อพูดถึงโลกความเป็นจริงที่เต็มไปด้วยตัวแปรที่ซับซ้อน การพัฒนา AI ให้เข้าใจ และตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและการวิจัยเพิ่มเติม
แนวทางหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นคือ การพัฒนา “multi-agent AI systems” หรือ ระบบ AI ที่มีตัวแทนหลายตัวทำงานร่วมกัน
Demis Hassabis ได้ยกตัวอย่างงานวิจัยของ DeepMind ที่เกี่ยวข้องกับการให้ AI ฝึกเล่นเกม Starcraft ซึ่งต้องอาศัยการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการทำงานร่วมกันระหว่าง AI หลายตัว ระบบเหล่านี้จะช่วยให้ AI สามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูล และเรียนรู้จากกันและกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ โธมัส เคอเรียน (Thomas Kurian) ซีอีโอของ Google Cloud กล่าวเสริมว่า ในอนาคต AI จะสามารถสื่อสาร และแชร์ความสามารถซึ่งกันและกันได้ เช่น AI ตัวหนึ่ง สามารถบอก AI ตัวอื่นได้ว่า มีทักษะอะไร และสามารถใช้เครื่องมืออะไรได้บ้าง สิ่งนี้จะช่วยให้ AI สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
หลังจากการมาของ AGI นักวิจัยเชื่อว่า เราจะเข้าสู่ยุคของ ปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงสุด (Artificial Super Intelligence หรือ ASI) ซึ่งมีความฉลาดเหนือกว่ามนุษย์ในทุก ๆ ด้านแต่ ยังไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้แน่ชัดว่า ASI จะเกิดขึ้นเมื่อใด
Demis Hassabis กล่าวว่า “ไม่มีใครรู้ว่าการพัฒนา AI ขั้นสูงสุดจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่”
แม้ว่าการมาของ AGI จะยังไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ AI จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องมือช่วยเหลือ แต่จะเป็นระบบที่สามารถคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกเทคโนโลยีไปอย่างสิ้นเชิง
ที่มา : cnbc