สงครามภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบสำคัญต่อวงการบล็อกเชน Ethereum อีกด้วย แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้มีบทบาทโดยตรงบนเครือข่าย
ปัจจุบันชุมชนชาว Ethereum เองกำลังเกิดความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบรายได้ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการอัปเกรด Dencun ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งได้มาช่วยลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลงอย่างมาก แม้จะเป็นข่าวดีของผู้ใช้งาน แต่บางส่วนในชุมชนก็เริ่มพูดถึงแนวทางการเพิ่มค่าธรรมเนียมอีกครั้ง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินของ Ethereum ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน ในอีกฟากฝั่งของสมรภูมิอย่างบล็อกเชน Solana กลับมีสถานการณ์ที่แตกต่างออกไป ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า Ethereum อย่างเห็นได้ชัด และล่าสุดกับการเปิดตัว Solaxy ($SOLX) โซลูชั่น Layer-2 ตัวแรกบน Solana ที่จะเข้ามาช่วยลดภาระการประมวลผลบนเครือข่ายหลัก ทำให้ปัญหาความแออัดลดลง และลดความต้องการทรัพยากรบนเครือข่ายลง
แม้ว่า Solaxy จะยังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่ก็สามารถระดมทุนไปได้แล้วกว่า 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพในการขยายขนาดของโปรเจกต์นี้
ปัจจุบัน $SOLX มีราคาซื้อขายกันอยู่ที่ 0.00169 ดอลลาร์ และราคาดังกล่าวกำลังจะหมดลงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก่อนที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นในเฟสถัดไป
ความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการเงินของ Ethereum
การอัปเกรด Dencun ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน Ethereum ลดลงอย่างมาก จากค่าเฉลี่ยประมาณ 1.75 ดอลลาร์ เหลือเพียง 0.38 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากถึง 78% แม้ว่านี่จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน แต่ก็ได้จุดประกายความกังวลภายในชุมชนเกี่ยวกับรายได้ที่ลดลงของเครือข่ายหลัก และคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว
Ye Zhang ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์ม Layer-2 อย่าง Scroll ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดในการเก็บค่าธรรมเนียมบนเครือข่าย Layer-2 โดยเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้นักพัฒนาและผู้ใช้งานลดลง และท้ายที่สุดอาจเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตของ Ethereum
ข้อกังวลนี้ ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อ Solana ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับการมาถึงของ Solaxy ที่กำลังจะเปิดตัวหลังจากประสบความสำเร็จในช่วงเริ่มต้น
Solana จำเป็นต้องมี Layer-2 เหมือน Solaxy หรือไม่?
ผู้สังเกตการณ์ตลาดหลายรายมองว่า Solana เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของ Ethereum มานานแล้ว โดยมักถูกเรียกว่า “Ethereum Killer” ด้วยจุดเด่นด้านปริมาณการทำธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ที่สูง และค่าธรรมเนียมแก๊สที่แทบจะเป็นศูนย์ ทำให้หลายคนเชื่อว่า Solana อาจแซงหน้า Ethereum ได้ในที่สุด ไม่ใช่แค่ในเรื่องราคา แต่รวมถึงแรงผลักดันของนักพัฒนาและการใช้งานจริง
แม้จะมีข้อได้เปรียบเหล่านี้ Ethereum ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ซึ่งเหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือ โครงสร้างที่แตกต่างกันโดย Solana เป็นบล็อกเชนแบบ Monolithic ซึ่งหมายความว่า การดำเนินการ การบรรลุฉันทามติ และความพร้อมใช้งานของข้อมูลทั้งหมดจะเกิดขึ้นบน Layer-1 ซึ่งแตกต่างจาก Ethereum ที่พึ่งพา Layer-2 ในการปรับขนาด
Solana จัดการทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่ต้น ทำให้การดำเนินการรวดเร็วและถูกกว่า แต่ก็หมายความว่า เมื่อเกิดปัญหาความแออัดบนบล็อกเชน จะไม่มีช่องทางสำรองข้อมูลอื่นเพื่อดำเนินการต่อ
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ปัญหาความแออัด ธุรกรรมที่ล้มเหลวบ่อยครั้ง และความไม่พอใจของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นปัญหาหลักของ Solana มาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม Anatoly Yakovenko ผู้ร่วมก่อตั้ง Solana ยังคงเชื่อมั่นว่า Layer-2 ไม่มีความจำเป็น โดยมองว่า Layer-1 ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพมาอย่างดีสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
แต่ความเป็นจริงอาจกำลังพิสูจน์แนวคิดนี้อยู่ การที่ Solana ควรใช้ บล็อกเชน Layer-2 หรือไม่นั้น ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกัน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ Solana จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการมี Layer-2 และนั่นคือจุดที่ Solaxy เข้ามาช่วยขจัดแรงกดดันบนเครือข่ายหลัก เพิ่มขีดความสามารถในการปรับขนาด และขับเคลื่อนระบบนิเวศไปข้างหน้า ไม่ว่าทีมงานหลักจะคาดหวังไว้เช่นไรก็ตาม
ศักยภาพที่น่าจับตามองของ Solaxy (SOLX)
ในขณะที่ Solaxy ยังคงเดินหน้ากวาดเงินระดมทุนได้อย่างต่อเนื่อง แต่เฟสการระดมทุนก็ใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งหมายถึงโอกาสในการคว้าเหรียญ $SOLX ในราคาที่อาจเป็นราคาต่ำสุดก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดเปิดกำลังจะหมดไป
Solaxy มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก ไม่ใช่แค่จากกระแสตอบรับที่ดี แต่ยังมาจากการที่มันสามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้ Solaxy มีโอกาสที่จะเติบโตเคียงคู่ไปกับ $SOL ในฐานะโปรเจกต์ที่จะช่วยลดช่องว่างระหว่าง Solana และ Ethereum
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ในฐานะโปรเจกต์ Layer-2 ตัวแรกบน Solana ที่มุ่งแก้ไขปัญหาความแออัดโดยตรง Solaxy อาจจุดประกายการเกิดขึ้นของระบบนิเวศ L2 ใหม่ทั้งหมดบน Solana เหมือนกับที่ Rollups ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับ Ethereum
ลองพิจารณามูลค่าตลาดของ Layer-2 ชั้นนำบน Ethereum ที่มีมูลค่าเป็นพันล้านดอลลาร์ หาก $SOLX มีมูลค่าเทียบเท่ากับ Arbitrum ($ARB) ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ นั่นอาจส่งผลให้มูลค่าตลาดพุ่งขึ้นมากกว่า 400% จากราคาปัจจุบัน
นอกจากนี้ Solaxy ยังรองรับการเชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินคริปโตชั้นนำมากมาย อาทิ Best Wallet ที่ช่วยให้การเก็บรักษาคริปโตเป็นเรื่องง่ายขึ้น เนื่องจากการรองรับแบบ Multi-Chain รวมทั้งเชน Ethereum และ Solana
ติดตามชุมชน Solaxy บน X และ Telegram เพื่อรับข่าวอัปเดตล่าสุด
หากสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Solaxy อย่างเป็นทางการ
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม |  |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด |  |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน |  (ไม่ชัดเจน) |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | |
| 9. ไม่มีสัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุน คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
<strong>บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์</strong>