Kursiv สื่อท้องถิ่นของคาซัคสถานรายงานว่า ธนาคารกลางของประเทศกำลังพิจารณาวางแผน นำทุนสำรองของชาติ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือเงินตราต่างประเทศบางส่วน รวมถึงสินทรัพย์จากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ มาลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต
Timur Suleimenov หัวหน้าธนาคารกลางคาซัคสถาน ระบุว่า “เรามีพอร์ตการลงทุนทางเลือก สำหรับทั้งทุนสำรองทองคำ และเงินตราต่างประเทศ รวมถึงพอร์ตของกองทุนแห่งชาติ (National Fund) ซึ่งเราใช้กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุน
ทางคาซัคสถานได้ศึกษา ประสบการณ์ของกองทุนในนอร์เวย์, สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง ที่เริ่มลงทุนในคริปโตโดยตรง หรือผ่านกองทุน ETF ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต แม้จะยังเป็นสัดส่วนเล็ก ๆ ก็ตาม ”
Timur Suleimenov ย้ำว่า ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และเตือนถึงความผันผวนของสินทรัพย์คริปโต โดยกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงไม่ควรรีบร้อนตัดสินใจ แม้จะให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความผันผวนสูงเช่นกัน”
นอกจากการพิจารณาลงทุนโดยตรงแล้ว ธนาคารกลางยังเดินหน้าแผนการจัดตั้ง “คลัง Bitcoin และคริปโตของรัฐ” ซึ่งประกาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยคลังนี้ จะใช้เก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกยึด จากการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะในการจัดการสินทรัพย์เหล่านี้

Timur Suleimenov กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่จัดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund – IMF) ในปี 2025 ที่มา: IMF
Timur Suleimenov ยังกล่าวเสริมว่า หากรัฐวิสาหกิจของคาซัคสถาน มีส่วนร่วมในการขุด Bitcoin หรือเหรียญคริปโต ก็มีความเป็นไปได้ที่สินทรัพย์บางส่วนจะถูกเก็บภาษี หรือถูกเรียกเก็บเข้าสู่คลังคริปโตของรัฐบาล ตามแนวทางที่บางประเทศได้ดำเนินการไปแล้ว
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า คาซัคสถาน ก็เตรียมบังคับใช้บทลงโทษทั้งทางปกครองและอาญาสำหรับการทำธุรกรรมคริปโตที่ไม่ได้รับอนุญาต
ปัจจุบัน การซื้อขายคริปโตในคาซัคสถานได้รับอนุญาตเฉพาะบนแพลตฟอร์มที่มีใบอนุญาตภายในเขต Astana International Financial Centre (AIFC) เท่านั้น และทางการก็มีแผนจะ “จำกัดการโฆษณาคริปโต” เพิ่มเติมในอนาคต
ที่มา : bitcoinmagazine

