Bitcoin อาจไม่ใช่เหรียญที่ผันผวนสุดโต่งเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เพราะ Bitcoin ETF จะเปลี่ยนโฉมพฤติกรรมของตลาดไปอย่างสิ้นเชิง
Mitchell Askew นักวิเคราะห์ของ Blockware ชี้ว่า การมาถึงของกองทุน ETF ทำให้วัฏจักรที่ผันวนแบบเดิม ๆ ของ Bitcoin หายไป เหลือเพียงโมเดลการเคลื่อนไหวแบบ pump and consolidate หรือการพุ่งขึ้นแล้วสะสมฐานราคาที่มั่นคง แทนกราฟขึ้นสุด-ลงสุดเหมือนในอดีต
Askew มองว่า BTC ในยุคหลัง ETF จะเข้าสู่เส้นทางการเติบโตระยะยาวที่ค่อย ๆ ไต่ขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านดอลลาร์ โดยจะพุ่งช้าลง คาดการณ์ได้ง่ายขึ้น และดึงดูดสถาบันมากกว่าเดิม
สถาบันชอบ แต่สายเก็งกำไรอาจหงุดหงิด
ฝั่ง Eric Balchunas จาก Bloomberg เห็นด้วยว่า ความผันผวนที่ลดลงทำให้กองทุนใหญ่กล้าเข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะสามารถคาดเดาทิศทางได้ง่ายขึ้น
แต่ก็แลกมากับสิ่งที่นักเทรดสายซิ่งเฝ้าคอย นั่นคือ “แท่งเทียนศักดิ์สิทธิ์” หรือการพุ่งขึ้นในแนวดิ่งที่เห็นบ่อยช่วงตลาดกระทิง ที่อาจเหลือเพียงแค่ตำนาน
ขณะเดียวกัน เงินทุนกำลังไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ “ช่วยถือ Bitcoin ให้” มากกว่าลงทุน Bitcoin ตรง ๆ สะท้อนว่าตลาดคริปโตกำลังเปิดประตูให้การเงินแบบดั้งเดิมเข้ามามีบทบาทหนักขึ้น
ตัวอย่างชัดคือ BlackRock ที่ตอนนี้ถือ Bitcoin ประมาณ 3% ของอุปทานทั้งหมด ซึ่งบางฝ่ายกังวลว่าอาจสร้างปัญหาการรวมศูนย์และความเสี่ยงด้านสภาพคล่องได้ในระยะยาว
ยุคใหม่ไม่เหวี่ยงแรง แต่มั่นคงกว่าเดิม
แม้จะมีเงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin BTF เกิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์แล้ว แต่กระแสนี้ก็อาจทำให้เงินหมุนเวียนไปถึง Altcoin และกิจกรรม On-chain ลดน้อยลงตามไปด้วย
ผลลัพธ์คือ Bitcoin อาจกำลังเปลี่ยนจากเหรียญเก็งกำไรสุดเหวี่ยง ไปสู่สินทรัพย์สำรองที่นิ่งกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นข่าวดีสำหรับสถาบัน แต่นักเก็งกำไรสายซิ่งอาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
Source: Coindoo

